ขายจุดไหนบ้าง หมูพาณิชย์ "ลดราคา" ช่วยประชาชน

วันที่ 13 ม.ค. 65 เรื่องของหมูแพง แต่ผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการที่จะรับประทานเนื้อหมู เนื่องจากเป็นวัตถุดิบ ปรุงอาหารหลักของประชาชน ทำให้จังหวัดต่างๆ ต้องหาทางแก้ไข จัดหาเนื้อหมู เข้าร่วมโครงการจำหน่ายในราคาที่เหมาะสม เพื่อผู้บริโภคหาซื้อรับประทานได้

เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.65) ที่ตลาดสดบ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อม นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก และ นายสุริพล มาบุญช่วย ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก ออกสำรวจและประชาสัมพันธ์  "โครงการ หมูพาณิชย์... ลดราคา! ช่วยประชาชน"

ซึ่งจังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชนและแก้ไขปัญหาเร่งด่วนจาก เนื้อหมูที่ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 มกราคม 2565 

จุดจำหน่าย 7 จุด (ปริมาณการจำหน่าย 50 กิโลกรัม/จุด) ดังนี้

- ร้านเอสเคเอฟ ถ.เอกาทศรฐ (ตรงข้ามตลาดร่วมใจ)
- ร้าน ธ. การค้า ต.หัวรอ
- ร้านบีเอ็มพี เฟรช ถ.เอกาทศรฐ
- ร้านเจ้เองหมูสดตลาดเทศบาล 5 (บ้านคลอง)
- ร้านเจ้เองหมูสดตลาดเทศบาล 1 (ตลาดใต้)
- ร้านหมูอัจจิมาฟาร์ม สาขาตลาดบ้านคลอง
- ร้านหมูอัจจิมาฟาร์ม สาขาตลาดศาลพ่อปู่ดำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า นอกจากเรื่องจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกแล้ว ยังได้มอบนโยบายจัดจุดจำหน่าย หมู ไก่ ไข่ และปลา จากเกษตรกร ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ทุกวันศุกร์ ในช่วงเดือนมกราคม 2565 ที่ตลาดเกษตรกรหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้ชาวพิษณุโลกอีกด้วย

นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในส่วนจังหวัดพิษณุโลก ทั้ง 7 จุดจำหน่ายจุดละ 50 กิโลกกรัมต่อวัน การจำหน่ายหมูราคาถูกเป็นไปตามนโนบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้เนื่องจากเนื้อหมูขาดตลาด ดังนั้นเมื่อมีนโยบายห้ามจำหน่ายหมูส่งออก ปริมาณหมูก็จะเพิ่มขึ้น ราคาก็จะลดลง และในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึง ปริมาณหมูที่เลี้ยงก็น่าจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาหมูไม่น่าแพงและราคาลดลง
  

ด้าน นายสุริพล มาบุญช่วย ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยที่ประสบปัญหาโรคระบาดไม่ว่าจะอหิวาห์ หรือโรคเพิร์สในสุกร สำหรับจังหวัดพิษณุโลก พบว่ามีเกษตรกรทั้ง 9 อำเภอที่ได้รับผลกระทบราว 100 ราย จำนวนหมู 3,000 ตัว คิดเป็นเงินชดเชย 13 ล้านบาท คาดว่าเกษตรกรจะได้รับภายในไม่เกิดสิ้นเดือนนี้

ภาพ/ข่าว กรรณิการ์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พิษณุโลก