ข่าว

ก้าวไกลเสนอนำเข้าแก้หมูแพง ด้านสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทยเห็นสวน บอกวิบัติแน่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอแก้ปัญหาหมูแพงระยะสั้นต้องนำเข้าหมูจากต่างประเทศ ด้านนายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เห็นสวนทาง ถ้านำเข้าหมูจริง เกษตรกรวิบัติแน่

รายการคมชัดลึก โดย วราวิทย์ ฉิมมณี วันนี้ เชิญ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎรไทย , นายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เพื่อหาทางออกกับสังคมเรื่องข้าวยากหมากแพง

ประเด็นที่มีการพูดคุยกันร้อนแรงที่สุดคือ การแก้ปัญหาราคาหมูแพงและการแก้ปัญหาหมูทั้งระบบ ซึ่ง นายนราพัฒน์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาหมูแพงเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามแก้ปัญหา ซึ่งเกิดจากการเจอโรคระบาดส่วนหนึ่ง ทำให้หมูขุนหายไปจากระบบ

แต่มีสิ่งที่ต้องคิดต่อคือ เมื่อดูข้อมูลการนำหมูเข้าโรงเชือดจะเห็นว่า มีปริมาณไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก สิ่งหนึ่งคือในช่วงนี้มีความต้องการหมูเพิ่มมากขึ้น เป็นเรื่องอุปสงค์ อย่าลืมว่าเราเริ่มเปิดประเทศ  เศรษฐกิจกำลังจะเดินหน้า ความต้องการหมูจากเดือนพฤศจิกายน  ธันวาคม จึงมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กำลังมองไปที่เรื่องราคาหน้าฟาร์มกับราคาหน้าเขียงที่แตกต่างกันมาก รัฐบาลกำลังตรวจสอบและแก้ปัญหาตรงนี้อยู่

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การแก้ปัญหาของภาครัฐไม่ตรงจุด  เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่สำคัญคือรัฐปกปิดข้อมูล ในส่วนตัวมองว่าการแก้ปัญหาระยะสั้นอาจจะต้องเปิดให้มีการนำเข้า ทั้งนี้อุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูมีแนวโน้มจะถูกกินรวบโดยรายใหญ่มากขึ้น จะเห็นว่าเกษตรกรรายย่อยเริ่มลดลงไปเรื่อย ๆ ถ้ารัฐบาลใส่ใจความมั่นคงทางอาหารจริง คงต้องทำให้รายย่อยมีความเข้มแข็ง เพิ่มอำนาจการต่อรองเกษตรกรรายย่อยมากขึ้น แน่นอนว่าในช่วงโรคระบาดยังสามารถแก้ปัญหาได้ ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นรายเล็กรายย่อยรับไม่ไหวแน่นอน 

เมื่อ นายวราวิทย์ ถามถึงวิธีการแก้ปัญหา ว่าควรจัดงบประมาณมาชดเชย หรือรัฐบาลอาจมีมาตรการเติมเงินในกระเป๋าให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น  น.ส.ศิริกัญญา มองว่า เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น อย่างไรก็ต้องทำ  ต้องคิดถึงการนำเข้าด้วยซ้ำ ไม่ว่าใครจะกั๊กไว้ก็ตาม ถ้ามีสินค้าจากข้างนอกเพิ่มขึ้นมา รับรองป่วนตลาดได้แน่นอน

แต่ต้องชดเชยเกษตรกรรายย่อยไปด้วย เพราะต้นทุนเขาแพงจริง และการนำเข้ามามีต้นทุนที่ถูกกว่า ก็จะเกิดผลกระทบกับเขาจริง แต่ในระยะยาวต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรรายย่อย ไม่ใช่แค่การให้สินเชื่ออย่างที่ ธกส.ทำอยู่ 100,000 บาทต่อราย ไม่สามารถทำโรงเรือนระบบปิดที่เป็นไบโอซิเคียวริตี้ได้แน่นอน ถ้าจะสนับสนุนจริงต้องมีเงินอุดหนุนสำหรับการสร้างโรงเรือนเลย ทำให้มีความเข้มแข็งให้เกษตรกรมากขึ้น 

ด้าน นายสมชาย นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า เรื่องหมูเป็นเรื่องเฉพาะหน้า แต่ราคาสินค้าตัวอื่นส่งสัญญาณขยับมาตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว ถ้ายังคิดแบบเดิม แก้ปัญหาแบบเดิม ปัญหาก็ไปชั่วลูกชั่วหลาน ระบบเกษตรบ้านเราปลูกมากขายถูก ถ้าหมูแพงแล้วมีความคิดว่าเอาหมูนอกเข้ามาเพื่อให้ราคาถูกลง ยิ่งวิบัติใหญ่ คนเลี้ยงหมูยิ่งเจ๊งระเนระนาดใหญ่

ต้องทำให้ประชาชนยอมรับว่าตอนนี้บ้านเราเกิดอะไรขึ้น หมูแพงเพราะอะไร มีนายทุนเขมือบอยู่ไหม ถ้าขจัดตรงนั้นแล้วจะกิโลกรัมละ 300 บาท ก็ต้องขาย คนที่มีศักยภาพพอทานได้ก็ทานไป ส่วนคนที่ไม่มีศักยภาพทานไม่ไหว ก็ต้องหาอย่างอื่นทดแทนไปในช่วงที่ราคาแพง

เพียงแต่รัฐบาลต้องบอกว่า 3 เดือน 6 เดือนข้างหน้า มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ใช่แก้แบบ 2 ปีก่อน ข้าวเหนียวแพงก็เอาข้าวประเทศเพื่อนบ้านมา เสร็จแล้วปีถัดมา ปลูกข้าวเยอะแยะ เอาไปทิ้งหน้าศาลากลาง แก้ปัญหาต้องแก้ให้ตรงจุด 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ