ช็อก พบ "ซากเสือโคร่ง" 2 ตัว ถูกถลกหนัง ถูกแล่เนื้อหั่นเป็นชิ้นๆ ย่างไฟรมควัน
ระหว่าง จนท.ตรวจสอบ ซากเสือโคร่ง ได้มีคนชายหนึ่ง โทรศัพท์เข้าหาชุดจับกุม ติดต่อเพื่อขอคืนปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์
วันที่ 12 ม.ค. 65 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย "ทส.หนึ่งเดียว" และทส.ยกกำลัง X" ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้อสั่งการ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ ป้องกันและปราบปราม การบุกรุกทำลายป่าและล่าสัตว์ป่า อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิจ.กาญจนบุรี ได้รับรายงานว่าจะมีกลุ่มพรานลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่อุทยานฯทองผาภูมิ ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา จึงสั่งการให้ นายวันชัย สูนคำ พนักงานพิทักษ์ป่า พร้อมกับทีมรวม 10 นาย ร่วมกันออกลาดตระเวน ตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย เกี่ยวกับการป่าไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
กระทั่งถึงบริเวณป่าห้วยปิล๊อก หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ห่างจากในเขตชายแดนไทย-เมียนมา ประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันไฟ จึงซุ่มเข้าตรวจสอบ พบกลุ่มนายพราน 5 คน และขณะเจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมตัว สุนัขที่กลุ่มพรานนำไปด้วย เห็นเจ้าหน้าที่ ได้ส่งเสียงเห่ากรรโชกขึ้น ทำให้กลุ่มนายพรานทั้งหมดรู้ตัว วิ่งหลบหนีเข้าป่าลึกไป
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเพิงพักชั่วคราว อาวุธปืนยาวลูกซอง 5 นัด จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวลูกกรดขนาด. 22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนแก๊ปยาว จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง อุปกรณ์ดำรงชีพในป่า ทั้งเปลนอน ไฟฉายคาดหัว มีดเหน็บ หม้อสนาม ข้าวสารอาหารแห้ง จำนวนกว่า 29 รายการ
ห่างเพิงพัก 20 เมตร เจ้าหน้าที่ถึงกับตกตะลึง พบหนังเสือโคร่งขนาดใหญ่ เพศผู้ยาวกว่า 2 เมตร น้ำหนักราว 80 กก. จำนวน 1 ซาก ผูกซากจากหัวถึงโคนหาง ตรึงกับไม้ ตั้งพิงกับแคร่ร้านไม้ไผ่ และยังพบเนื้อเสือโคร่งที่ถูกชำแหละเป็นชิ้นๆ จำนวนมาก วางย่างไฟอยู่บนแคร่ ไม่ห่างกันพบหนังสือโคร่งเพศเมีย ยาวราว 2 เมตร อีก 1 ผืน พาดตากอยู่บนกิ่งไม้ที่ผูกติดกับต้นไม้ ห่างบริเวณที่พบซากหนังเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว ราว 100 เมตร พบซากวัว 1 ตัวที่ถูกผูกคอติดไว้กับต้นไม้ใหญ่
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า กลุ่มนายพราน ทั้ง 5 คน ได้รับออเดอร์สั่งซากเสือโคร่งจากนายทุน จึงลักลอบเข้าป่ามาก่อนหน้านี้ราว 2 วัน โดยจูงวัวเข้าไปด้วย 1 ตัว จากนั้นนำวัวมัดคอติดกับต้นไม้ เพื่อเป็นเหยื่อล่อ ให้เสือโคร่งออกมากิน เมื่อเสือโคร่งทั้งเพศผู้และเพศเมีย 2 ตัว เชื่อว่าเป็นเสือที่เป็นคู่กัน เข้ามาเพื่อกินเหยื่อ กลุ่มพรานที่แอบซุ่มได้ใช้อาวุธปืน ยิงใส่เสือโคร่งทั้ง 2 ตัว จนเสียชีวิต และทำการถลกหนังออก จากนั้นแล่เนื้อหั่นเป็นชิ้นๆ ย่างไฟรมควัน ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ได้มีคนชายหนึ่ง โทรศัพท์เข้าหาชุดจับกุมติดต่อเพื่อขอคืนปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์ โดยแจ้งว่าปืนลูกซอง 5 นัดดังกล่าว เป็นของเจ้าหน้าที่ อพปร.คนหนึ่ง
และวันนี้ (12 ม.ค.65) เจ้าหน้าที่ ได้นำของกลางอุปกรณ์กระทำผิดทั้งหมด ซากเสือโคร่ง ทั้ง 2 ตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก เพื่อดำเนินคดีและสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำผิด มารับโทษต่อไป
นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิได้ กล่าวว่า สำหรับเสือโคร่งเพศผู้และเมีย ทั้ง 2 ตัวนี้ เชื่อว่าเดินหากินไปมาในป่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ รอยต่อกับป่าของประเทศเมียนมา อุทยานฯทองผาภูมิมีพื้นที่รับผิดชอบ เนื้อที่ทั้งหมด 772,214 ไร่ มีแนวเขตด้านตะวันตก ติดชายแดนเมียนมา ระยะทาง 152 กิโลเมตร มีเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าปกป้องป่าและสัตว์ป่า 120 คน ขอให้คำมั่นจะดูแล รักษาปกป้องพื้นที่ป่า และสัตว์ป่า เท่ากับชีวิตของตนเอง ให้เป็นมรดกของประเทศชาติต่อไป
ภาพ/ข่าว วุฒิเดช ก้อนทองคำ จ. กาญจนบุรี