ข่าว

"ย้ายด่วน" 4 ตำรวจสำโรงเหนือ ยัดข้อหาหนุ่มขนยาเค สุดท้ายโอละพ่อ แค่ "การบูร"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"การบูร" 4.31 กรัม พ่นพิษ ผู้การปากน้ำเดือด สั่ง "ย้ายด่วน" 4 นายตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เข้าปฎิบัติหน้าที่ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ หลังตั้งด่านจับหนุ่มใส่กุญแจมือ ยัดข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง สุดท้ายโอละพ่อ เป็นแค่ "การบูร"

จากกรณี นายสมชาย (สงวนนามสกุล) ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ และตำรวจอาสา ด่านตรวจ บริเวณทางเข้าซอยแบริ่ง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทำการเรียกตรวจค้น โดยมีการระบุว่า พบสารสีขาวซุกซ่อนอยู่ภายในรถ และอ้างว่าเป็นสารเสพติด ประเภทยาเค ซึ่งหลังจากนั้นนายสมชาย จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมและลงมือทำร้ายร่างกาย พร้อมจับใส่กุญแจมือ ซึ่งต่อมาญาติของนายสมชาย ทราบเรื่อง จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ และพบว่า สารสีขาวดังกล่าว ไม่ใช่สารเสพติด แต่เป็น "การบูร" ที่มารดาของนายสมชาย ซื้อมาใส่ไว้ในรถของบุตรชาย "ย้ายด่วน" 

 

"ย้ายด่วน" 4 ตำรวจสำโรงเหนือ ยัดข้อหาหนุ่มขนยาเค สุดท้ายโอละพ่อ แค่ "การบูร"

 

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า สารดังกล่าวไม่ใช่ยาเสพติด จึงไม่ได้นำตัว นายสมชาย ที่ถูกกล่าวหาไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก พร้อมกับข่มขู่ นางนาตยา (มารดา)  โดยเหตุการร์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่ผ่านมานั้น 

 

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ ญาติของผู้เสียหาย จึงได้เดินทางเข้าร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.ชุมพล  พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจสมุทรปราการ จากกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากถือว่าเป็นการยัดข้อหาให้กับประชาชนที่บริสุทธิ์  
 

 

ล่าสุด พล.ต.ต.ชุมพล  พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจสมุทรปราการ ได้เซ็นต์คำสั่ง "ย้ายด่วน" 4 นายตำรวจ เข้าไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีข้อความดังนี้ 


คำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการที่ 12/2565 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ด้วยปรากฎข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ กรณีภาพข่าวที่เกิดขึ้น บริเวณจุดตั้งตรวจ-จุดสกัด ถนนสุขุมวิท
(ขาออก) ปากซอยสุขุมวิท 109 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 

 

โดยเหตุการณ์เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 23.25 นาฬิกา เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ2563 ข้อ 6(2) และ ข้อ 8 (3) จึงให้


1.ร้อยตำรวจเอกเอกนรินทร์ รุ่งโรจน์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ
2.ร้อยตำรวจเอกสุรยุทธ พึ่งคำ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ
3.สิบตำรวจเอกกรวิทย์ วิศรีสิทธิ์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ
4.สิบตำรวจตรีสันติ โยธมาศ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ

 

"ย้ายด่วน" 4 ตำรวจสำโรงเหนือ ยัดข้อหาหนุ่มขนยาเค สุดท้ายโอละพ่อ แค่ "การบูร"


ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่เดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ มอบหมาย จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่  11 มกราคม 2565 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2565 พลตำรวจตรี ( ชุมพล พุ่มพวง ) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ
 

 

เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมกับรายงานให้ พลตำรวจตรี ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับทราบ ทั้งนี้ ต้องขอเวลาให้คณะกรรมการ ได้ทำงานทำการสอบสวนและตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงก่อน หากว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องมีการลงโทษตามระเบียบ 

 

นอกจากนี้ ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ยังได้ออกคำสั่ง "ย้ายด่วนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 4 นาย ไปปฎิบัตงานที่ ศปก. ส่วนในเรื่องการตรวจสอบสารเสพติดในปัสสาสวะ พบหรือไม่พบนั้น ก็ต้องรอการรายงานของคณะกรรมการได้รายงานขึ้นมา แต่ขอยังยืนยันว่า ถ้าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ก็จะต้องมีการลงโทษอย่างแน่นอน 



สำหรับผู้เสียหายนั้น ขณะนี้กำลังประสาน เพื่อให้เข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง ส่วนผู้เสียหายรายใดเคยถูกกระทำ ในลักษณะทำนองเดียวกัน สามารถเข้ามาพบตนเองได้ตลอดเวลา เพราะที่ผ่านมาทางโรงพักยังไม่เคยได้รับการร้องเรียนในเรื่องทำนองนี้ แต่ถ้ามีก็สามารถเข้ามาร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ได้ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ หากพบว่าผิดจริง ก็จะดำเนินคดีอาญาทุกรายไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ หรือเป็นใครก็ตาม ขอยืนยันว่าจะ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้ออกคำสั่งยกเลิก การปฎิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครช่วยเหลือเจ้าพนักงานทั้งหมดอีกด้วย "การบูร

 

 

logoline