ข่าว

เตือนภัย! แก๊ง CALL CENTER แอบอ้างเป็น DSI

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ แนะวิธีสังเกตและรับมือ ย้ำหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์มือถือ

เตือนภัย! แก๊ง CALL CENTER แอบอ้างเป็น DSI

ตามที่นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน กรณี มีแก๊ง CALL CENTER โทรศัพท์แอบอ้างเป็น DSI หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลอกลวงเอาเงินของผู้เสียหาย โดยอ้างว่ากำลังถูก DSI ดำเนินคดีอาญาฐาน"ฟอกเงิน" และให้นำเงินไปเก็บไว้ในบัญชีของ ที่แจ้ง เพื่อตรวจสอบหากดำเนินการเสร็จแล้วจะโอนคืนให้ พร้อมทั้งหลอกลวงให้เดินทางมายัง"กรมสอบสวนคดีพิเศษ"เพื่อสอบปากคำอันเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายเชิดเงินหนี  

 

โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แนะนำวิธีการ"สังเกตและรับมือ"เรื่องดังกล่าวไปแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีพี่น้องประชาชนที่ยังตกเป็นเหยื่อของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง  โดยล่าสุดในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งเมื่อวันที่ 8 - 9 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ยังมีผู้เสียหายหลงเชื่อเดินทางมายัง"กรมสอบสวนคดีพิเศษ" ตามคำหลอกลวงจำนวนหลายราย และบางรายมีการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก 

ในวันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอเน้นย้ำวิธีการสังเกตและรับมือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการเตือนภัย ดังนี้


1.ไม่มีเจ้าหน้าที่ของ DSI หรือของรัฐติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับการเงิน เลขบัญชี หรือให้โอนเงิน หรือทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่มีการนัดหมายให้มาพบนอกวัน เวลาราชการ  หากพบพฤติกรรมดังกล่าวให้วางสายทันที เพื่อไม่ให้ถูกพูดจาหว่านล้อมจนหลงเชื่อ

 

2.หากท่านหลงเชื่อและมีการโอนเงินให้คนร้ายไปแล้ว ให้รีบแจ้งความกับพนักงานสอบสวนท้องที่ ที่เกิดเหตุการณ์นั้น และรีบติดต่อธนาคารเพื่อระงับการทำธุรกรรมโดยเร็วที่สุด

กรณีดังกล่าว แม้จะมิใช่คดีพิเศษ แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษมิได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากมีประชาชนหลงเชื่อเพราะเหตุจากแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมอบหมายให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สืบสวนจนทราบว่าเป็นขบวนการของต่างประเทศ โดยใช้เครือข่ายคนไทยด้วยกันเองเป็นผู้หลอกลวง มีการใช้โทรศัพท์ผ่านระบบ Voice Over Internet Protocal (VOIP) และใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยในการหลอกลวงด้วย โดยเป็นการโทรมาจากบริเวณตะเข็บชายแดน

 

มีการจัดหาบัญชีม้าที่เป็นของคนไทยเพื่อใช้ในการรับโอนเงินโดยเจ้าของบัญชี จะเปิดการใช้งานในรูปแบบ E-banking  เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้กระทำความผิด บางรายจะจดทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้พร้อมบัญชีเงินฝาก เพื่อใช้ในการโทรติดต่อหลอกลวง ซึ่งจากการตรวจเส้นทางการเงินพบว่ามีการโอนเงินจำนวนหลายทอด ไม่น้อย 4 ลำดับชั้นบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงการอายัดบัญชีเงินฝาก รวมทั้งพบการธุรกรรมผ่าน E-banking ในประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลและประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจับกุมดำเนินคดีและยึดทรัพย์ต่อไป
 

logoline