ข่าว

วันที่ลำบากก็อยู่ข้าง ๆ กัน "ชีวิตต้องสู้" คู่รักเข็นวีลแชร์ขายวุ้น ยังชีพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แม้ว่าวันนี้ ข้าวของหลายอย่างมีราคาแพงขึ้น แต่ทั้งสอง ซึ่งใช้ชีวิตด้วยกันมาร่วม 25 ปี ยังเดินหน้าทำมาหากิน "สู้ชีวิต" กันต่อไป

วันที่ 11 ม.ค. 65 ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 มีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ทั้งยังส่งผลกระทบให้มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป ยังคงต้องหารายได้เลี้ยงปากท้อง เพื่อคนในครอบครัว และมีแรงต่อสู้ ผ่านวิกฤตในสถานการณ์โควิดนี้ให้ได้

วันที่ลำบากก็อยู่ข้าง ๆ กัน "ชีวิตต้องสู้" คู่รักเข็นวีลแชร์ขายวุ้น ยังชีพ

เช่นเดียวกับครอบครัวของ นายชะโอม ดอกนางแย้ม อายุ 53 ปี อดีตผู้จัดการร้านอาหารระดับห้าดาว เคยมีรายได้เดือนละกว่า 100,000 บาท เมื่อคิดถึงบันปลายชีวิต หวังจะมีธุรกิจส่วนตัว จึงลาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะมาเซ้งร้านเปิดร้านอาหารตามสั่ง เพื่อที่จะได้ดูแลคู่ชีวิต ซึ่งภรรยาป่วย วัย 46 ปี ป่วย ขาและแขนขวาอ่อนแรง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ ส่วนตนเองได้ผ่าตัดไตออกไปหนึ่งข้าง จึงไม่สามารถทำงานหนักได้  วันที่ลำบากก็อยู่ข้าง ๆ กัน "ชีวิตต้องสู้" คู่รักเข็นวีลแชร์ขายวุ้น ยังชีพ

กระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ทำให้เศรษฐกิจทรุด ทำให้กิจการร้านอาหารตามสั่ง ต้องปิดตัวลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากที่มีบ้าน และรถ ก็ต้องหมดไป จึงต้องพากันระหกระเหิน มาอยู่ในบ้านเช่าของเพื่อนเก่า ที่ช่วยเหลือให้พัก โดยคิดค่าเช่าเพียงเดือนละ 1,000 บาท 

     

หลังจากต้องปิดร้านอาหารตามสั่งแล้ว ก็หันมาทำน้ำผลไม้ขาย เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ขายดี แต่หลังปีใหม่ก็เงียบเหงาไป จึงหันมาทำวุ้น ขายในราคากล่องละ 20 บาท จะออกเดินเข็นวีลแชร์ของภรรยา ขายอยู่ภายในซอยเขาตาโล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หากใครอยากช่วยอุดหนุนก็สามารถ สั่งซื้อได้ที่เบอร์ 063-313-0241

 

แม้ว่าวันนี้ ข้าวของหลายอย่างมีราคาแพง แต่ทั้งสองซึ่งใช้ชีวิตด้วยกันมาร่วม 25 ปี ยังเดินหน้าทำมาหากินสู้ชีวิตกันต่อไป

วันที่ลำบากก็อยู่ข้าง ๆ กัน "ชีวิตต้องสู้" คู่รักเข็นวีลแชร์ขายวุ้น ยังชีพ ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร -ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

logoline