รวบแล้ว "ท้าวแชร์" มหาภัย เชิดเงินหนีเกือบ 100 ล้าน "หมายจับ" ยาวเป็นหางว่าว

7 ม.ค.2565  กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) , พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำหมายจับเข้าจับกุม  น.ส.กัลยาณี (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 8 หมายจับ โดยจับกุม บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 4 ต.วังตะกู อ.เมือง จว.นครปฐม เมื่อเวลาประมาณ 17.50 น. ของวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา 

 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อ  กองปราบปรามว่าถูก น.ส.กัลยาณี  ผู้ต้องหา ท้าวแชร์  ซึ่งใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Kanlayanee Kapook” หลอกลวงโดยชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่ โดยตั้งกลุ่มแชร์ชื่อว่า “จักรวาลหอมทรัพย์ปี 5” มีการเชิญชวนให้สมาชิกลงทุน ออมเงิน, ออมทอง และแชร์วง โดยอ้างว่าเมื่อครบกำหนดสมาชิกจะได้รับเงินลงทุนพร้อมเงินปันผลในอัตราที่สูง นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังได้ออกอุบายสร้างเพจเฟซบุ๊กให้มีความน่าเชื่อถือ มีการรีวิวบนหน้าเพจเฟซบุ๊ก มีการโพสต์อ้างว่าได้ส่งเงินลงทุนพร้อมกำไรคืนให้กับลูกค้าวันละหลายแสนบาท จนมีผู้หลงเชื่อจำนวนหลายร้อยรายโอนเงินไปร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่ ออมทอง ออมเงิน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท แต่ต่อมาผู้ต้องหากลับปิดเฟซบุ๊กและปิดกลุ่มเพจก่อนนำเงินทั้งหมดหลบหนีไป

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.  จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาให้ได้โดยเร็ว

 

 

 

ในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมใช้เวลาในการสืบสวนกว่า 3 เดือน จนกระทั่งทราบว่าเบื้องต้นมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 478 ราย โดยบางส่วนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้หลายท้องที่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 97,777,958 ล้านบาท แบ่งเป็น

1. “วงแชร์” มูลค่าเสียหาย 10,180,190 บาท

2. “ออมเงิน” มูลค่าเสียหาย 38,791,580 บาท 

3. “ออมทอง” มูลค่าเสียหาย 88,806,188 บาท 

เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหามาตลอด จากนั้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบที่บ้านพักของผู้ต้องหาแต่ผู้ต้องหาไหวตัวทันและหลบหนีการจับกุมไปได้  กระทั่งวันที่ 6 ม.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.วังตะกู อ.เมือง จว.นครปฐม จึงนำกำลังสืบสวนติดตาม จนกระทั่งสามารถจับกุม น.ส.กัลยาณี ผู้ต้องหาได้  ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย        

เบื้องต้นจากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
 

 

ทั้งนี้ หมายจับ น.ส.กัลยานี จาก 8 ท้องที่ ประกอบด้วย 

1.สภ.คลองหลวง หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา “เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง มีสมาชิกรวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน”

2.สน.ลำหิน หมายจับศาลอาญามีนบุรีในข้อหา “ฉ้อโกงกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

3.สน.คันนายาว หมายจับศาลอาญามีนบุรี ในข้อหา “ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน, ให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

4.สน.แสมดำ หมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหา “ฉ้อโกงและกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

5.สภ.สามชุก หมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

6.สภ.เมืองพิษณุโลก หมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ในข้อหา “ฉ้อโกง, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

7.สภ.กบินทร์บุรี หมายจับศาลจังหวัดกบินทร์บุรี  ในข้อหา “ฉ้อโกงกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”  

8.สภ.สวนผึ้ง หมายจับศาลแขวงราชบุรีลง 23 ธ.ค.2564 ในข้อหา “ฉ้อโกง”