
"สร้างความสุข" ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้หรือไม่
เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตัดต่อสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง แต่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้ออกจากงาน และกลับมาอยู่บ้านกับภรรยา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่
วันที่ 7 มกราคม 2565 การค้นหาความสุขของแต่ละคน อาจจะไม่เหมือนกัน แต่เชื่อแน่ว่าเกินครึ่งที่ทำงานในเมืองใหญ่ อยากกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อได้ใช้ชีวิต แบบพออยู่พอกิน ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องแข่งขัน แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าตัดสินใจ กลับไปใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการได้
นายจำนงค์ นาคประดับ หนุ่มใหญ่ วัย 59 ปี พร้อมภรรยา อยู่ที่หมู่ 5 บ้านห้วยหม้อ ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา กำลังเก็บผลผลิต พืชผักสวนครัว ทั้งมะเขือยาว ผักกาด คะน้า บร็อคโคลี่และพืชผักอื่นๆ หลังใช้พื้นที่ประมาณกว่า 3 ไร่ ทำการเกษตรแบบผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ ปลูกทั้งไม้ผล และพืชผักสวนครัวตามฤดูกาล
นอกจากนั้นยังพัฒนาพื้นที่ ให้ชื่อว่า "จอกะปอ" เป็นเกษตรปลอดภัย จนได้รับใบประกาศ ออร์แกนิคไทยแลนด์ ผลผลิตที่ตนเองทำนั้นยังเป็นที่ต้องการของตลาด และหากผลผลิตออกสู่ตลาดก็จะมีผู้สั่งจอง และหาซื้ออย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้ให้อย่างงาม
นายจำนงค์ นาคประดับ เล่าว่า ก่อนหน้านั้นมีอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่ตัดต่อสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง และจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย จึงได้ออกจากงาน และกลับมาอยู่บ้านกับภรรยา ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และมีที่ดินอยู่จำนวนหนึ่ง ได้ทำการศึกษาการทำการเกษตร และได้มีโอกาสได้เข้าศึกษาอบรมกับหมอดินอาสา และปรับปรุงพื้นที่ของตนเองที่มีอยู่ประมาณ 3 ไร่ โดยการปรับปรุงสภาพดินใช้เวลากว่า 5 ปี ดินในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีความสมบูรณ์และได้ทำการเกษตร ลักษณะเกษตรอินทรีย์ มาโดยตลอด โดยได้จัดสรรพื้นที่ปลูกไม้ผลส่วนหนึ่ง
และอีกส่วนหนึ่งก็จะปลูกพืชผักสวนครัวตามฤดูกาล ซึ่งจะปลูกในลักษณะทดแทนกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยผลผลิตส่วนใหญ่นั้น จะสามารถจำหน่ายได้แบบไม่มีปัญหา ลูกค้าก็จะเป็นโรงพยาบาลพะเยา เจ้าหน้าที่บุคลากรจากมหาวิทยาลัย ซึ่งหากเก็บผลผลิตก็จะโพสต์ลงในไลน์ รวมทั้งเฟสบุ๊คก็จะมีผู้สั่งจอง และเดินทางมารับที่สวนของตนเอง
ซึ่งในแต่ละวันก็สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ทุกวัน เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 300-400 บาท ก็ถือเป็นสร้างความสุขให้กับครอบครัวได้แล้ว เนื่องจากไม่มีต้นทุนในการผลิตมากนัก ทั้งนี้สนใจพูดคุยหาความรู้ด้านเกษตร สอบถามเพิ่มเติม ที่หมายเลข 089-201-1073