"หมูทอดเจ๊จง" โอด "หมูแพง" ทำพิษ แพงเกินรับไหว คงต้องหยุดขายหมูทอด

ถ้าพูดถึง "ร้านหมูทอดเจ๊จง" คงไม่มีใครไม่รู้จัก ชื่อเสียงด้านฝีมือการทำอาหาร โดยเฉพาะเมนู "หมูทอด" ที่ทำให้ผู้คนติดอกติดใจ การันตีด้วยจำนวนสาขา ที่ขยายไปถึง 13 สาขาทั่วประเทศ 

 

แต่ด้วยสถานการณ์ "ราคาเนื้อหมูแพง" ที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่สาหัสที่สุด ตั้งแต่ "ร้านหมูทอดเจ๊จง" เปิดร้านมา วันนี้ทีมข่าว คมชัดลึกออนไลน์ ได้ลงพื้นที่เพื่อไปพูดคุยกับ "เจ๊จง" ถึงการรับมือกับสถานการณ์หมูแพง ในขณะนี้ 

นางจงใจ กิจแสวง หรือ "เจ๊จง" เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิด "ร้านหมูทอดเจ๊จง" มาประมาณ 18 ปี ครั้งนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ "เนื้อหมู" ราคาพุ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยปกติเนื้อหมูที่เคยรับซื้อ จะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 135 บาท แต่ครั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่มาจนถึงวันนี้ (6 ม.ค. 65) ราคา "เนื้อหมู" พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ อยู่ที่ กิโลกรัมละ 190 บาทแล้ว ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านหลังปีใหม่มา ไม่มีวันไหนไม่เครียดเลย กลัวว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นไปกว่านี้ 

"วันนี้เจ๊ต้องไปเอาหมูจากอีกร้านนึงมาเพิ่มเพราะหมูจากเบทาโกรไม่พอ ซึ่งพอเห็นราคา กิโลกรัมละ 190 บาทแล้ว ต้องอุทานเลยว่า ไม่ขายก็ได้วะ ราคานี้ เพราะเจ้เคยรับได้ที่กิโลกรัมละ 135 แค่นี้ก็จะไม่เหลืออะไรแล้วนะ พอมากิโลกรัมละ 190 บาท คือเครียดเลย วันนี้ก็ขายเอาแค่หมดเลยค่ะ เหลือแค่ประมาณ 20 โล" 

โดยเฉลี่ย "ร้านหมูทอดเจ๊จง" จะใช้เนื้อหมูเฉลี่ย สาขาละ 100 กิโลกรัม ซึ่งหลังจากที่เจอสถานการณ์ "ราคาเนื้อหมูแพง" เจ๊จงก็ได้เตรียมการรับมือกับสถานการณ์นี้ คือ

1.ขอปรับเพิ่มราคาหมูทอดกับลูกค้า

2.การเพิ่มเมนูใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือก แทนเมนู "หมูทอด"  

3.หยุดขายบางเมนูเพื่อลดต้นทุน 

และหากสถานการณ์ "ราคาเนื้อหมูแพง" ยังไม่ดีขึ้น คงต้องใช้ข้อ 4. คือ หยุดขายเมนู "หมูทอด" ชั่วคราว และรอจนกว่าราคาเนื้อหมูจะกลับสู่ภาวะปกติ

โดยการปรับราคา "ร้านหมูทอดเจ๊จง" จากปกติจะปรับขึ้นครั้งละ 1-2 บาท แต่รอบนี้ขอปรับขึ้น 2-4 บาท โดย "หมูทอด" ที่เคยขาย จะจำหน่ายอยู่ที่ราคา ขีดละ 28 บาท ขอปรับขึ้น เป็นขีดละ 30 บาท หมูทอดราดข้าวใส่กล่อง จากปกติ ราคากล่องละ 35 บาท ขอปรับขึ้นเป็น 39 บาท ส่วนหมูทอดที่ขายเป็นกิโลกรัม จากปกติขายกิโลกรัมละ 280 บาท ขอปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 300 บาท 

 

"รอบนี้ถือว่าปรับขึ้นเยอะนะ ปกติเจ๊จะปรับขึ้นทีละ1-2บาท แต่รอบนี้ปรับขึ้น 2-4บาทเลย ไม่กล้าปรับเยอะนะ สงสารลูกค้า ลูกค้านี่แหล่ะต้องแบกรับเลย เราอยู่ได้ เค้าก็ต้องอยู่ได้ ต้องช่วยๆกันไป" 

 

 

นอกจากการปรับราคาขึ้นแล้ว อีกหนึ่งแผนที่เจ๊จงเลือกใช้ในช่วงนี้ คือการเพิ่มเมนู "ปลานิลทอด" เข้ามา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยเมนูปลานิลทอดราดข้าว จะขายอยู่ที่กล่องละ 35-45 บาท ซึ่งถ้าหาก "เนื้อหมู" มีราคาสูงมากกว่านี้ คงจะพักการขาย "หมูทอด" ไว้ก่อน และหันมาขายปลานิลทอด หรือไก่ทอด แทนไปก่อน ซึ่งก็เชื่อว่าลูกค้าจะเข้าใจ และ หันมาบริโภค ปลาทอด ไก่ทอด แทน หมูทอด

 

"คือถ้าราคาเนื้อหมูอยู่ที่ กิโลกรัมละ 190 บาท เจ้ยังจะพอกัดฟันทนนะ แต่ถ้ามันพุ่งสูงขึ้นไปอีก เราก็คงไม่ไหวแล้ว คงต้องหยุดขายหมูทอดไปก่อน ก็คงจะแจ้งลูกค้าว่า ลองหันมาทานปลาทอด ไก่ทอดดูไหม ในเมื่อมันแพงมาก ก็หยุดทานไปก่อน แต่ยังไม่ถึงขั้นปิดร้านนะ เพราะว่าเราต้องทำมาหากิน ต้องผ่อนรถ ผ่อนบ้าน" 

 

สุดท้าย "เจ๊จง" ได้ฝากไปถึงการทำงานของภาครัฐ ให้จัดการเรื่อง "ราคาเนื้อหมูแพง" โดยเร็ว เพราะไม่ใช่เพียงแค่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือประชาชนผู้บริโภค ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในขณะที่ค่าแรงก็ยังคงเท่าเดิม