ปชป. จี้ ผบ.ทบ. สอบ "ทหาร" เข้าพื้นที่เลือกตั้ง - บิ๊กบี้ สั่งสอบทันควัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จังหวัดชุมพร และเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดสงขลา ว่า สถานการณ์ขณะนี้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั้งสองเขตของพรรคได้ลุยหาเสียงกันอย่างเต็มที่ กระแสตอบรับทั้งในเรื่องตัวบุคคล นายอิสระพงษ์ มากอำไพ ที่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมที่ เขต 1 จังหวัดชุมพร เป็นคนรุ่นใหม่ที่กระแสตอบรับดีมากที่ต้องการให้คนรุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทในการเมืองที่สำคัญได้ผ่านงานการเมืองที่ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด สามารถทำงานได้ทันที

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา นางสาวสุภาพร กำเนิดผล เป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่มีบทบาททางด้านสตรีทำงานให้กับประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดเช่นกัน และที่สำคัญนโยบายพรรคที่ประชาชนพึงพอใจและได้รับประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันรายได้ ไม่ว่าจะเป็นยางพารา และสินค้าเกษตรอื่น ราคาปาล์มที่พุ่งสูงขึ้น ประชาชนก็ตอบรับเป็นอย่างดี

นายราเมศกล่าวต่อว่า แต่มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่ต้องเรียกร้องไปยังพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ตรวจสอบกรณี "ชุดทหาร"กว่า 100 นาย นอกพื้นที่เข้าไปยังพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร ซึ่งมีความผิดปกติและมีลักษณะของการกดดันการรณรงค์หาเสียงของพรรคโดยเฉพาะ เสธ ต ที่คนในพื้นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก

จึงเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.ได้เร่งตรวจสอบ หากมีการกระทำเช่นนั้นจริง ต้องสั่งการให้ชุดทหารถอยออกไป เข้ากรมเข้ากอง อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อมการวางตัวเป็นกลางสำคัญที่สุด หากใช้อำนาจรัฐในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง แน่นอนว่าไม่ใช่การเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่อยากให้มีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ขณะนี้ได้เก็บหลักฐานไว้บางส่วนแล้ว วันหนึ่งคิดว่าหลักฐานต่างๆเหล่านี้จะได้ใช้ประโยชน์เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธ์และยุติธรรมต่อไป

ผบ.ทบ. สั่งเร่งตรวจสอบข้อมูล กรณี ปชป. กล่าวหาทหารลงพื้นที่เลือกตั้งชุมพร

พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุมีทหารลงพื้นที่ในการเลือกตั้งที่ จ.ชุมพร และขอให้กองทัพบกดำเนินการ ว่า พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก รับทราบแล้ว และได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลและรายงานให้กองทัพบกทราบโดยด่วน หากมีส่วนใดที่ไม่ดำเนินตามนโยบาย ต้องได้รับการพิจารณา และรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำทั้งในเรื่องวินัยทหารและกฎหมายบ้านเมือง 

ทั้งนี้กองทัพบกในฐานะกลไกหนึ่งของรัฐ มีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการเมืองและดำเนินการตามเจตนารมณ์มาโดยตลอดคือ การวางตัวเป็นกลางทางการเมืองในทุกการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กำลังพล ครอบครัวและประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามวิถีทางในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในทุกการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้งในทุกระดับ เมื่อได้รับการร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติของกองทัพบกในการสนับสนุนการเลือกตั้ง พ.ศ.2562 ที่กำหนดให้ "หน่วยทหาร" กำลังพล ยึดถือปฏิบัติในทุกการเลือกตั้งโดยเฉพาะการวางตนเป็นกลางไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายการเมืองใด ๆ ซึ่งกำลังพลได้ยึดถือตามแนวทางและไม่ปรากฏการปฏิบัติใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากมีข้อมูลว่ากำลังพลมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทางการเมือง ก็สามารถแจ้งผู้บังคับ "หน่วยทหาร" ในพื้นที่ กองทัพบกส่วนกลาง หรือใช้กลไกกฎหมายบ้านเมืองดำเนินการได้เพื่อร่วมกันสร้างสังคมประชาธิปไตยที่สงบเรียบร้อย โดยขอให้การแจ้งพฤติกรรมดังกล่าวอยู่บนข้อมูลพยานหลักฐาน มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ทัศนคติหรือความกังวลใจส่วนบุคคล ส่งผลต่อภาพพจน์ขององค์กร