ข่าว

 "ชัยชนะ" ชี้ ปี 2564 คนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองเลขาฯ ปชป. อัดมีบางกลุ่มอาศัยจุดอ่อนของวัยรุ่นใช้โซเซี่ยลมีเดียปลุกปั่นให้หลงผิดไปจากข้อเท็จจริง แนะเลิกล้มความตั้งใจเพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างวัยและคนไทยด้วยกัน  

 

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบทบาททางการเมืองของคนรุ่นใหม่ ในปี 2564 ที่กำลังจะผ่านไปว่า ในปีที่กำลังจะผ่านไปนี้ (2564) ถือว่าคนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจและก้าวเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับที่ผ่านมา มีคนรุ่นใหม่ได้รับเลือกจากประชาชนมากยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มการเมืองที่ไม่หวังดีอาศัยธรรมชาติของคนรุ่นใหม่ คือ ความมีพลังอย่างแรงกล้าและรักพวกพ้อง รวมทั้ง มองเห็นจุดอ่อนคือขาดประสบการณ์และวิจารณญาณในการไตร่ตรอง นำมาเป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองเพื่อไปสู่เป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ โดยอาศัยการปลุกปั่นในโซเซี่ยลมีเดีย โดยเฉพาะอาศัยแฮชแท็ก (#) ในทวิตเตอร์ เพื่อชี้นำทำให้คนรุ่นใหม่หลงผิดไปจากข้อเท็จจริง ทำให้ในขณะนี้ ยังมีคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งมีทัศนคติทางการเมืองโดยมองไม่เห็นว่า ปัญหาที่แท้จริงคือ นักการเมืองที่ขาดคุณธรรมจริยธรรม เอาความไว้วางใจของประชาชนไปใช้ในทางทุจริต และไม่สามารถวางตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีที่จะให้คนรุ่นใหม่ที่จะมีความคาดหวังว่าจะก้าวเข้ามาทำงานทางการเมืองได้  

 

ดังนั้น ตนเห็นว่า นับจากนี้ไป หากคนรุ่นใหม่ ใช้พลังที่มีเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และถูกต้องตามกฎหมาย โดยชี้นำให้นักการเมืองและประชาชนเห็นในสิ่งที่เหมาะสมต่อการเมืองไทยแล้ว เชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตยของไทยจะมีการพัฒนาไปมากขึ้น และคนรุ่นเดิมก็จะมีความมั่นใจในการฝากฝังให้คนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามารับผิดชอบประเทศได้ในอนาคตอันใกล้นี้ 

 

ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

"ผมเชื่อว่า กระแสการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า  Disruption (ดิสทรัปชั่น) นั้น มีเข้ามาในวงการเมืองตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เนื่องจากว่า คนรุ่นใหม่ต่างไม่ชอบการเมืองแบบเดิมๆ ที่พวกเข้ารู้สึกว่า เต็มไปความหวาดกลัว ผลประโยชน์กลโกงสารพัด ไม่มีพื้นที่ที่พวกเขาได้แสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมืองที่เพียงพอ จึงทำให้พวกเขาส่วนใหญ่ที่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก ตัดสินใจเลือกสิ่งที่คิดว่าเป็นสิ่งใหม่ๆ และประชาชนต่างคาดหวังว่า โฉมหน้าทางการเมืองจะต้องเปลี่ยนแปลงไป"

 
 

แต่จนถึงขณะนี้ กลายเป็นว่า คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มรู้สึกว่า การเมืองก็ยังวนเวียนเหมือนเก่า และพวกเขากลายเป็นหมากที่ไม่ต่างจากเหตุการณ์ในอดีต จึงทำให้พวกเขาต้องขอทวงคืนชีวิตวัยรุ่นคืนมา เพื่อป้องกันไม่ให้การเมืองรบกวนการใช้ชีวิตและมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน ดังนั้น ผมจึงเชื่อมั่นในศักยภาพและพลังของคนรุ่นใหม่ ที่จะเป็นกำลังสำคัญทางการเมืองในอนาคต เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากให้คนรุ่นใหม่ มีวิจารณญาณในการพิจารณาข้อมูลข่าวสารมากขึ้น ไม่ใช่เชื่อเรื่องราวประเภท ‘เขาเล่าว่า’ หรือเชื่อในสิ่งที่บุคคลที่ตัวชื่นชอบบอกกล่าว โดยไม่ไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ และผมก็ขอร้องให้นักการเมืองทุกฝ่าย ช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานในสภาฯ ให้กลับมาเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนทุกเพศทุกวัย รวมทั้ง ใครที่มีเจตนาไม่หวังดีต่อประเทศชาติ อาศัยความเป็นคนรุ่นใหม่มาเป็นเกราะกำบังตัวเองอย่างน่าไม่อาย โดยเชื่อว่ามีคนหรือองค์กรนอกประเทศคอยให้ท้ายนั้น ก็ขอให้เลิกล้มความตั้งใจ และอย่าปลุกปั่นสร้างความแตกแยกระหว่างวัยและคนไทยด้วยกันด้วย” นายชัยชนะ กล่าว

logoline