"คมชัดลึก" พาย้อนดูความอดทนของ "ฟ้าใส" ลูกช้างป่าพลัดหลง ด้วยอายุเพียง 3 เดือน กับบาดแผลมากมาย ทั้งถูกยิงและบ่วงแร้วรัดจนขาเกือบขาด ซึ่งอยากขอให้เป็นสัตว์ตัวสุดท้ายที่ต้องเจ็บปวดแบบนี้
เป็นข่าวร้ายส่งท้ายปีสำหรับคนรักสัตว์ โดยเฉพาะช้าง กับการล้มอย่างไม่ทันคาดคิดของช้างน้อย "ฟ้าใส" เมื่อคืนที่ผ่านมา จากอาการท้องเสีย แม้ว่าทีมสัตวแพทย์จะดูแลและพยายามยื้อชีวิตอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ทั้งนี้หากมองย้อนการรักษาไปจนถึงวันที่เริ่มบาดเจ็บ ต้องถือว่า "ฟ้าใส" มีความอึดและอดทนมาก เพราะกว่าจะถูกโขลงทิ้งจนมีชาวบ้านไปพบและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าใดที่ "ฟ้าใส" ต้องเจ็บปวดทั้งจากแผลถูกยิงที่ต้นขาซ้าย ทั้งการถูกเชือกรัดและเสียดสีไปมาที่ข้อเท้าขวา กระทั่งหนังเปิด แผลเปื่อย จนเกือบขาด
สุดสงสาร ช้างน้อยถูกบ่วงพรานรัดขา อีกข้างถูกยิง 7 รู เจ็บหนัก ฝูงทิ้ง (คลิป)
"ฟ้าใส" ถูกพบอยู่ในคูกันช้าง บริเวณบ้านคลองยายไท หมู่ 18 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ด้วยอายุเพียงประมาณ 3 เดือน ในวัยที่ต้องกินนมจากแม่ แต่ต้องถูกโขลงทิ้งเนื่องจากเป็นธรรมชาติที่ต้องรักษาสมาชิกส่วนใหญ่ไว้ หากมีตัวในในฝูงบาดเจ็บ อ่อนแอ และเป็นภาระ ตัวนั้นจะถูกทิ้ง จากนั้นมีผู้มาพบและแจ้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ให้เข้ามาช่วยเหลือ
ฟ้าใส เคยมีชื่อว่า "ขวากรัก" เพราะหลังช่วยเหลือขึ้นมา สัตว์แพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การรักษาลูกช้างเบื้องต้น ได้เคลื่อนย้ายมายังหน่วยพิทักษ์อุทยานเขาหินขวาก อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
ต่อมา วันที่ 1 ธันวาคม นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา ได้รับช้างน้อยมาดูแลพร้อมเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น ฟ้าใส เพื่อให้เรียกง่าย ฟังดูสดใส และคล้องจองกับพังฟ้าแจ่ม ที่สวนนงนุชเคยรับดูแลก่อนหน้านี้
วันที่ 2 ธันวาคม ขณะทำการล้างแผลที่เป็นรูต้นขาซ้าย ก็สามารถนำเศษกระสุนออกมาจากแผลได้ 1 ชิ้น จากเดิมสัตวแพทย์ยังไม่ระบุว่าเป็นแผลจากการถูกยิง เพราะอาจเป็นรูที่เกิดจากการทิ่มแทงของวัสดุอื่นก็เป็นได้ ซึ่งทั้งแผลที่ถูกยิงและแผลที่ถูกรัดพบว่ามีการติดเชื้อสูง
วันที่ 3 ธันวาคม สัตวแพทย์ตัดสินใจตัดข้อเท้าขวาที่ถูกบ่วงรัดออก เพราะอย่างไรก็ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ หากทิ้งไว้จะยิ่งทำให้ฟ้าใสเจ็บปวด ขณะที่อาการอื่น ๆ ยังมีปัญหากินนมได้น้อย ไตวาย ค่าเลือดหลายตัวผิดปกติ แม้ว่าในทางพฤติกรรมฟ้าใสจะปรับตัวได้ดีกับคอกและพี่เลี้ยง
วันที่ 10 ธันวาคม สัตวแพทย์นำโดย นสพ.เผด็จ ศิริดำรงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน และ สพ.ญ.สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้นำฟ้าใสมาผ่าตัดนำกระสุนที่ขาออก เพราะร่างกายแข็งแรงมากขึ้นแล้ว โดยสามารถนำหัวกระสุนเม็ดใหญ่ออกมาได้ 9 เม็ด รวมกับที่เคยนำออกมาได้ขณะอยู่สวนนงนุชอีก 1 เม็ด เป็นเม็ดใหญ่ 10 เม็ด เม็ดเล็ก 4 เม็ด แต่ยังมีเศษเล็กมาก ๆ เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ระหว่างการรักษาแต่ละวัน ทีมสัตว์แพทย์จะคอยทำความสะอาดบาดแผล รวมทั้งนำโฟมมาทำเป็นเท้าเทียมให้กับฟ้าใส พร้อมใช้ผ้าก๊อซหลากสีพันไว้ จนสร้างรอยยิ้มให้กับบรรดาแฟนคลับคนรักช้างที่คอยเอาใจช่วย และต้องมาลุ้นว่าแต่ละวันฟ้าใสจะได้รองเท้าสีอะไร ซึ่งระยะแรกเป็นสีประจำวัน และต่อมาได้พัฒนาเป็นสีทูโทน โดยพี่เลี้ยงก็จะใส่เสื้อคู่ให้เหมือนกับสีผ้าพันแผลของฟ้าใสด้วย
ทั้งนี้ยังมีบรรดาคนที่รักและเมตตาสงสารฟ้าใส คอยส่งสิ่งของต่าง ๆ ไปช่วยเหลือที่สวนนงนุช เช่น ผ้ารองกันเปื้อนเวลาทำแผล น้ำเกลือล้างแผล เบาะนอนและผ้าห่มในช่วงอากาศเย็นที่ผ่านมา ไปจนกระทั่งผักผลไม้สำหรับแม่ช้างที่ถูกรีดนมแบ่งมาให้ฟ้าใส
โดยตั้งแต่มาอยู่ที่สวนนงนุชและได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ฟ้าใสมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น แม้จะผอมไปบ้าง แต่น้ำหนักก็เพิ่มมากขึ้นกว่า 10 กิโลกรัม พฤติกรรมร่าเริง สดใส สามารถปีนป่ายคอก เล่นน้ำ เล่นกับพี่เลี้ยงและทีมแพทย์ได้
กระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม ฟ้าใส เกิดอาการท้องเสีย กินนมได้น้อย โดยดูเหมือนจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างในช่วงสาย แต่สุดท้ายแล้วฟ้าใส ก็ออกเดินทางสู่ดาวช้างในเวลา 21.45 น. สร้างความเสียใจให้กับทีมดูแล รวมถึงนายกัมพล ประธานสวนนงนุช ที่เรียกแทนตัวเองว่าคุณตาของฟ้าใส และบรรดาแฟนคลับที่ต่างแชร์และแสดงความเห็นจำนวนมาก ทันทีที่ทราบข่าวจนถึงตอนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง