ข่าว

ผบ.ทอ.เปิดแผนซื้อเอฟ 35 ยืนยันคุ้มค่า และมีความจำเป็น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบ.ทอ.เปิดแผนเล็งซื้อ เอฟ 35 ทดแทนรุ่นเก่าที่แทบหาอะไหล่ไม่ได้ ระบุ คุ้มค่าเพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ ประกอบเครื่องบินไร้คนขับได้ ไม่ต้องซื้อเต็มฝูง ฉวยโอกาสช่วงนี้ราคาตก หวังประชาชนและฝ่ายการเมือง เข้าใจ

พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า กองทัพอากาศกำลังพิจารณาจัดหาเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ ทดแทนเครื่องเก่าที่ซ่อมบำรุงยาก ไม่คุ้มค่า และไม่ปลอดภัยในการบิน โดยตัวเลือกที่ดีที่สุดคือเครื่องบินขับไล่ เอฟ 35 ของบริษัท ล็อคฮีด มาร์ติน ประเทศสหรัฐฯ เพราะขณะนี้ราคาลดลง จากเดิมราคาเครื่องเปล่า 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง แต่ด้วยกลไกตลาดและการเมืองจากการรวมกลุ่มพันธมิตร ทำให้ราคาลดเหลือ  82 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง ขณะที่เครื่องบินกริพเพน รุ่นใหม่ราคาสูงถึง 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง

ดังนั้นเอฟ 35 จึงไม่ใช่เครื่องบินที่เอื้อมไม่ถึง อยู่ที่การต่อรองราคากับบริษัทให้ได้ต่ำสุด ซึ่งอาจได้ในราคาหลัก 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป ทั้งนี้จะตั้งโครงการในแผนงบประมาณ 2566 ทันที เพราะถ้าไม่รีบทำตอนนี้ราคาอาจจะสูงขึ้น และถ้าในที่สุดต้องลุยก็ต้องชี้แจงให้สังคมเข้าใจในทุกประเด็น โดยอาจตั้งคณะกรรมการศึกษาฯ ควบคู่ไปในช่วง 5 ปีนี้ เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบินเดินหน้าเร็วมาก ซึ่งคำว่าศึกษาก็เหมือนการเดินเครื่อง ถ้าพูดว่าซื้อเลยเดี๋ยวโดนทัวร์ลง แต่ตนเองเชื่อยังว่าทัวร์จะไม่ลง เพราะผู้ที่เข้าใจจะสนับสนุนทันที

ผบ.ทอ.เปิดแผนซื้อเอฟ 35 ยืนยันคุ้มค่า และมีความจำเป็น

ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวด้วยว่า ทอ.ไม่ได้ซื้ออาวุธ แต่ซื้อเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เราก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่เสี่ยงชีวิตใช้เครื่องมือเพื่อปกป้องท่าน ถ้าเข้าใจสิ่งนี้ประชาชนก็จะสนับสนุน ยืนยันว่าเรารักเครื่องบินเหมือนลูก ไม่ได้ทิ้งขว้าง ถนอมกล่อมเกลี้ยงเหมือนลูก เช็ดถู อาบน้ำทุกวัน ถ้าประชาชนมาเห็นการดูแลเครื่องไม้เครื่องมือของเราก็จะชอบ ที่สำคัญไม่ได้ซื้ออาวุธมาเข่นฆ่าใคร ซื้อมาเป็นเครื่องมือให้ประชาชน แต่เราเป็นคนใช้แทน

ส่วนที่มองว่าการซื้ออาวุธในช่วงที่ประเทศขาดแคลนงบประมาณ จากผลกระทบของโควิด19 นั้น เราทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าว และต้องหาหนทางที่จะนำไปสู่เป้าหมาย ด้วยการทยอยจัดซื้อครั้งละน้อย แต่เลือกของที่มีคุณภาพสูง และเรียนรู้เทคโนโลยีที่ได้รับ ซึ่งถ้าทำจริง ๆ กองทัพอากาศไม่มีวันที่จะทำร้ายประชาชนให้เดือดร้อน และสิ่งที่เรามีไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อประชาชน 

พล.อ.อ.นภาเดช ยังกล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่ ทอ.เห็นว่า เอฟ 35 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ว่า เนื่องจากภาพรวม กำลังทางอากาศสำคัญอย่างยิ่งในการรบสมัยใหม่ ที่สำคัญจะรบแพ้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ข้างล่างแหลกราญ ซึ่งปัจจัยมี 3 ประการ คือ ต้องมีอาวุธต้องที่มีคุณภาพ และต้องไม่ใช่ Second best แต่ต้องเป็น  The best ทั้งเครื่องบินและการส่งกำลังบำรุง ไม่เช่นนั้นของที่บอกว่าดีที่สุดก็จะง่อยเปลี้ยเสียขาไม่สามารถไปสู้รบปรบมือกับใครได้ 

ต้องมีความน่าสะพรึงกลัวที่แค่มีประจำการก็ถือเป็นการใช้งานเชิงนามธรรม อีกทั้งต้องมีขีดความสามารถในการร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเพื่อนบ้านได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไทยไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก รอบบ้านคือเพื่อนที่รวมตัวกันเป็นอาเซียนต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน หากเพื่อนมีภัย ความสนิทชิดเชื้อและเป็นมิตร เป็นพวกเดียวกัน ก็จะไม่มีใครกล้ามารุกราน 

ผบ.ทอ. กล่าวต่อไปว่า เครื่องบินที่กองทัพอากาศประจำการอยู่ดีพอใช้ แต่เมื่อเก่าทรุดโทรม คุณภาพย่อมสู้ของใหม่ไม่ได้ และยังมีปัญหาเรื่องส่งกำลังบำรุง โดยเฉพาะอะไหล่ที่อนาคตข้างหน้าหากติดขัดจัดหาไม่ได้ บริษัทหยุดสายการผลิต ก็ทำการบินไม่ได้ ทั้งนี้กองทัพอากาศมองอย่างรอบด้าน ทั้งการโมดิฟายด์เครื่องเก่าแก่ และเครื่องกลางเก่ากลางใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมมองหาเครื่องบินใหม่ ซึ่งเมื่อเรามีเงินน้อยก็ต้องเลือกสรรอย่างดี และต้องใช้งานได้นาน เหมือนที่ใช้ เอฟ16 มา 35-40 ปี 

นอกจากนี้ ทอ.ยังสนใจปฏิบัติการทางอากาศที่ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการรบด้วย loyal wing man ซึ่งเป็นเครื่องบินไร้คนขับสมรรถนะสูง ทำหน้าที่เป็นลูกหมู่ของเครื่องบินขับไล่ สามารถติดอาวุธได้ และบินเข้าไปยังเป้าหมายล่วงหน้าในระยะ 100-150 ไมล์ ทำภารกิจโดยควบคุมจากเครื่องหลักที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งน่าสนใจในระดับ  force multiplier โดยเราไม่จำเป็นต้องมีเอฟ 35 เต็มฝูง อาจจะเป็นครึ่งฝูง  8 ถึง 12 เครื่อง เทคโนโลยีนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก แต่เทคนิคเหล่านี้จะก้าวกระโดด หากกองทัพอากาศได้รับการสนับสนุนทั้งจากคนไทยด้วยกัน ฝ่ายการเมือง และภาคส่วนอื่น ๆ ประกอบกับ ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ ก็น่าจะขยับกำลังทางอากาศเข้าสู่ในมิติที่สมบูรณ์ขึ้น มีความเข้มแข็งและก็รบไม่แพ้ เป็นที่อุ่นใจ 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้นำเสนอแนวทางดังกล่าวต่อรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะ ทอ.จะเสนออะไรต้องคุยกันให้สะเด็ดน้ำก่อน

logoline