ข่าว

เปลี่ยน "กวินทร์" ลง "แมตช์นี้เพื่อพ่อ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กวินทร์" ธรรมสัจจานันท์ ลงเฝ้าเสาให้กับ "ทีมชาติไทย" ในช่วงครึ่งหลัง โดยสกอร์ช้างศึก นำห่างเหนือ อินโดนีเซีย ซึ่ง "มาโน่ โพลกลิ้ง" หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดทางก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางกลับไทย หลังจากจบทัวนาเมนต์เพื่อประกอบพิธีศพของคุณพ่อต่อไป

การแข่งขันฟุตบอล "ชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 (AFF Suzuki Cup 2020)" รอบชิงชนะเลิศ เลกแรก "ทีมชาติอินโดนีเซีย" พบกับ "ทีมชาติไทย"  ที่สนามกีฬาแห่งชาติประเทศสิงคโปร์

 

โดยผลสรุปเป็น ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ในเกมแรกไปด้วยสกอร์ 4-0 ได้ประตูจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ นาทีที่ 2 กับ 52 ,  สุภโชค สารชาติ นาที 67 และ บดินทร์ ผาลา  นาที 83 

ทั้งนี้ ซึ่งระหว่างเกมการแข่งขัน  นาทีที่ 74 "มาโน่ โพลกลิ้ง" ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ทำการเปลี่ยนผู้เล่นสองคนด้วยการส่ง "กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์" และ "วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ" ลงไปเล่นแทน "ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน" และ "ชนาธิป สรงกระสินธ์"  ในขณะที่ ช้างศึก นำห่าง อินโดนีเซียอยู่ถึง 3-0         

ซึ่งก่อนเกมการแข่งขัน "ไทย-อินโดฯ" จะลงทำการแข่งขัน  "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์  ต้องออกจากแคมป์ทีมชาติไทยชั่วคราวเพื่อบินกลับประเทศไทย หลังทราบข่าวว่าคุณพ่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง และรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจบินกลับมาดูแลคุณพ่อราว 10 วัน ก่อนหวนเข้าสู่แคมป์ช้างศึกอีกครั้ง เพื่อช่วยทีมในรอบรองฯ กับเวียดนาม และนัดชิงชนะเลิศ กับอินโดฯ 

ล่าสุดมีรายงานว่า คุณพ่อประมวล ธรรมสัจจานันท์ ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และเจ้าตัวก็ได้รับทราบข่าวร้ายดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ครอบครัวจะรอให้ "กวินทร์" เสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติ ในทัวนาเมนต์ รายการ ศึก ฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2020 หลังวันที่ 3 มกราคม จึงจะมีการประกอบพิธีศพของคุณพ่อต่อไป

อย่างไรก็ตาม เกมนัดถัดไป ในศึก  "ชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 (AFF Suzuki Cup 2020)" รอบชิงชนะเลิศ เลกสอง คู่ระหว่าง  ไทย พบ อินโดนีเซีย จะลงแข่งขันกันในวันเสาร์ที่ 1  มกราคม 2565 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย 

เปลี่ยน "กวินทร์" ลง "แมตช์นี้เพื่อพ่อ"

เปลี่ยน "กวินทร์" ลง "แมตช์นี้เพื่อพ่อ"

เปลี่ยน "กวินทร์" ลง "แมตช์นี้เพื่อพ่อ"

เปลี่ยน "กวินทร์" ลง "แมตช์นี้เพื่อพ่อ"

CREDIT PHOTO : Facebook@ThailandNTOFFICIAL

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ