ข่าว

เอเอฟเอฟโหมโรงก่อนเตะเดือด "ทีมชาติไทย" ดวลอินโดฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การแข่งขันฟุตบอล ศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ" รอบชิงชนะเลิศ เลกแรก เดินทางมาถึงสองนัดสุดท้ายของการชิงเจ้าอาเซียน ระหว่าง "ทีมชาติอินโดนีเซีย" พบกับ "ทีมชาติไทย" ทั้งนี้การก้าวขึ้นครองบัลลังก์ที่มีแชมป์เป็นเดิมพัน ต่างเป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมกันในนัดชิงชนะเลิศ

การแข่งขันฟุตบอล ศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ" เข้าสู่โค้งสุดท้ายที่มีเพียงสองชาติ ได้เข้าสู่สังเวียนชิงบัลลังก์แห่งอาเซียน ในรอบชิงชนะเลิศ เลกเเรก ระหว่าง "ทีมชาติอินโดนีเซีย" พบกับ "ทีมชาติไทย" ที่สนามกีฬาแห่งชาติประเทศสิงคโปร์  วันนี้ เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย 

เอเอฟเอฟโหมโรงก่อนเตะเดือด "ทีมชาติไทย" ดวลอินโดฯ

โดย เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เว็ปไซต์อย่างเป็นทางการได้เปิดศึกโหมโรง คู่ระหว่าง ทัพการูด้า อินโดนีเซีย บูู๊กับ ช้างศึกทีมชาติไทย ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ถือเป็นแมตช์ที่จะเต็มไปด้วยความทรงจำอันเป็นประวัติศาสตร์ของทั้งสองทีม  สำหรับสถิติที่พบกันของทั้งคู่จำนวน 79 เกม แบ่งเป็น ทีมชาติไทยชนะ 39 เสมอ 14 ครั้ง และ ทีมชาติอินโดนีเซีย ชนะ 26 ครั้ง โดยในศึก  "ชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 (AFF Suzuki Cup 2020)" รอบชิงชนะเลิศ จะเเข่งกันทั้งหมด 2 เกมการแข่งขัน 

 

ทั้งนี้ ได้มีการย้อนความทรงจำกับ 4 แมตช์สุดดุเดือดย้อนความทรงจำของทั้ง 2 ทีม "ไทย-อินโดนีเซีย" ที่พบกัน ในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 

 

1. ทีมชาติไทย แพ้จุดโทษ ทมีชาติอินโดนีเซีย 4-5 (เสมอกันในเวลา 3-3)

โดยในเกมดังกล่าว เป็นทีมชาติไทยออกนำ อินโดนีเซีย อยู่ 3-2 จนกระทั่ง ยูซูฟ เอ็คโคโดโน ยิงประตูตีเสมอในทัพ การูด้า ในช่วง 2 นาทีสุดท้ายของเกมตีเสมอทีมชาติทไยเป็น 3-3 และทำให้ต้องถึงฎีกาดวลจุดโทษผลจบลงที่ อินโดนีเซียเอาชนะ ไทย ไปด้วยสกอร์ 5-4 คว้าที่ 3 ไปครอง 

 

 

 

 

2. ไทย ชนะจุดโทษ อินโดนีเซีย 4-2 (เสมอกันในเวลา 2-2)

เกมนี้ถึงแม้ไทยจะออกนำไปก่อนในครึ่งแรก 2-0 จาก ชูเกียรติ หนูสลุง และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แต่ ยาริส ริยาดี กับ เก็นดัท คริสเตียวาน ก็มาปลุกเสียงเชียร์ของเจ้าถิ่นให้กลับมาอีกครั้งคึกอีกครั้งในรังตัวเอง ด้วยการตีเสมอเป็น 2-2 ทำให้เกมต้องยืดเยื้อไปถึงช่วงสุดท้ายของเกมคือ กาลดวลกันที่จุดโทษหาทีมชนะ ก่อนเป็น ทีมชาติไทยที่สังหารจุดโทษได้แม่นยำกว่า เอาชนะอินโดนีเซียไปแบบสุดมันส์ 4-2 คว้าแชมป์อาเซียนมาครองได้เป็นสมัยที่ 3 ในครั้งนี้ 

 

3. อินโดนีเซีย ชนะ ไทย 2-1

ในรอบแบ่งกลุ่มปี 2010 ช้างศึกทีมไทยกลับมาเจอกับอินโดนีเซียที่สนามเสนายันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สถานการณ์แตกต่างออกไป เมื่อทีมชาติไทยของ ไบรอัน ร็อบสัน หลังชนฝา ต้องเอาชนะเจ้าถิ่นให้ได้เท่านั้น เพื่อลุ้นเข้าสู่รอบตัดเชือกต่อไป

ถึงแม้ สุรีย์ สุขะ จะยิงให้ไทยขึ้นนำไปก่อน แต่ด้วยเสียงเชียร์และความกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่โหมกระหึ่มเชียร์ ทำให้อินโดนีเซียกลับมาฮึกเหิม ประกอบกับได้ 2 จุดโทษจาก บัมบัง ปามุงกัส พลิกแซงเอาชนะไปได้ 2-1 พร้อมส่งทีมชาติไทยกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มในปีนั้น 

 

4. ไทย ชนะ อินโดนีเซีย (ประตูรวม 3-2)

ในรอบชิงชนะเลิศปี 2016 นี่คือการพบกันครั้งล่าสุด ระหว่างทีมชาติไทยกับอินโดนีเซียในการแข่งขัน ชิงแชมป์อาเซียน โดยทีมชาติไทยในฐานะแชมป์เก่า บุกไปแพ้มาก่อนในนัดชิงฯ เกมแรกที่ ปากันเซรี สเตเดียม 1-2 

แต่นัดที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ลูกทีมของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมาเล่นในบ้านพร้อมกับกองเชียร์ช้างศึก กลับมาชนะได้อย่างเยี่ยม 2-0 ทำให้สกอร์รวมเอาชนะไป 3-2 คว้ามาครองเป็นสมัยที่ 5 และทำสถิติเป็นชาติที่ครองแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกชิงแชมป์อาเซียน

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับ "ทีมชาติไทย" จะพบกับ "อินโดนีเซีย" ใน รอบชิงชนะเลิศของศึก "ชิงแชมป์อาเซียน 2020" โดยจะแข่งขันสองนัด คือในเกมวันนี้เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย และ วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 19.30 น . 

เอเอฟเอฟโหมโรงก่อนเตะเดือด "ทีมชาติไทย" ดวลอินโดฯ

เอเอฟเอฟโหมโรงก่อนเตะเดือด "ทีมชาติไทย" ดวลอินโดฯ

 

CREDIT PHOTO : Sepakbola Indonesia Fansbook , Facebook@ThailandNTOFFICIAL

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ