อัปเดตความคืบหน้าล่าสุดมาตรการเยียวยา "ประกันสังคม" มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ว่า ในที่ประชุมครม. มีมติ อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม กลุ่มจังหวัดได้รับเยียวยาเพิ่ม 1 เดือน จำนวนเงิน 5,000 ในเดือน ส.ค. 2564
โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ในกิจการที่ได้รับผล กระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เดิมจะสิ้นสุดเดือน ธ.ค. 2564 ขยายเวลาจ่ายเยียวยากลุ่มตกหล่นเป็นสิ้นสุดเดือน มี.ค. 2565
เนื่องจากสำนักงาน "ประกันสังคม" รายงานว่า ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาตามโครงการดังกล่าว โดย ครม. ให้สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมของการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกันตนที่ไดรับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ครม. สำนักงาน "ประกันสังคม" ได้รายงานความคืบหน้าโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา33 ว่า ในวันที่ 16 ธ.ค.64 ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาให้กับนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 แล้ว 2 รอบ รวมเป็นเงิน 31,721.52 ล้านบาท
โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ายังมีกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาตามโครงการฯ ประกอบด้วยนายจ้าง 5,948 แห่ง ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 199,232 คน ได้แก่
กลุ่มที่อยู่ระหว่างการจ่ายเงินเยียวยา กลุ่มทบทวนสิทธิ กลุ่มที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบนิติสัมพันธ์และยืนยันข้อมูล อยู่ระหว่างเปลี่ยนแปลงรหัสประเภทกิจการ
ส่วนกรณีโอนเงินไม่สำเร็จเนื่องจากบัญชีเงินฝากปิดหรือไม่ได้ผูกกับพร้อมเพย์
ขณะนี้มีวงเงินคงเหลือตามโครงการ ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 จำนวน 1,984.24 ล้านบาท
ส่วนโครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในระบบ "ประกันสังคม" มาตรา39 และมาตรา 40 มีการจ่ายเงินเยียวยาแล้ว 72,015.33 ล้านบาท หรือประมาณ ร้อยละ 92.70 ของวงเงินตามโครงการ 77,785 ล้านบาท
ขณะนี้เหลือผู้ประกันตนที่ยื่นอุทธรณ์ หรือ ทบทวนสิทธิ์ โดpแบ่งเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 3,423 คน และผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 190,659 คน
สำหรับพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประกอบด้วย
กรุงเทพมหานคร
นครปฐม
นนทบุรี
ปทุมธานี
สมุทรปราการ
สมุทรสาคร
ปัตตานี
ยะลา
นราธิวาส
สงขลา
ชลบุรี
ฉะเชิงเทรา
พระนครศรีอยุธยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง