ข่าว

รวบแล้ว "โจรสาวพันหน้า" เปิดเฟสบุ๊ก 10 บัญชี หลอกเชิดเงินเหยื่อ "ออนไลน์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ ปอท. รวบแล้ว โจรสาวพันหน้า เปิดเฟสบุ๊ก 10 บัญชี หลอกตุ๋น "ออนไลน์" สารพัดรูปแบบ พบมีผู้เสียหายกว่า 50 ราย

(28ธ.ค.)  พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษก บก.ปอท. เปิดเผยว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. , พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท. และ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ ผกก.3 บก.ปอท.  "โจรสาวพันหน้า" "ออนไลน์"

 

รวบแล้ว "โจรสาวพันหน้า" เปิดเฟสบุ๊ก 10 บัญชี หลอกเชิดเงินเหยื่อ "ออนไลน์"

 

ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กมล ทวีศรี รอง ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ต.กิตติพงศ์ อมฤตโอฬาร สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.หญิงศรุตา ขันธรูจี รอง สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.ลัทธพล อัครปัญญา รอง สว.(สอบสวน)ฯ กก.3 บก.ปอท.,ด.ต.เสริมศักดิ์ บัวขาว, ส.ต.อ.ณัฐพงศ์ คงจันทร์ และ ส.ต.อ.ภานุวัฒน์ ขันคำ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอท.

 

ร่วมกันจับกุม น.ส.สุญาณี วงศ์สุภา อายุ 48 ปี ฉายา "โจรพันหน้" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ 402/2563 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกง พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง, 2. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 13 บัญชี และ 3. บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 9 ใบ โดยจับกุมได้ที่อาคารชุดบ้านพระยาภิรมย์-รัชดา 2 ซ.เสือใหญ่อุทิศ ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม 2564 ผู้ต้องหาได้ประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าวมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยตามท้องตลาดได้ จึงมีผู้เสียหายหลงเชื่อ สั่งซื้อหน้ากากอนามัยกับผู้ต้องหา 

 

ต่อมาเมื่อถึงกำหนดส่งมอบสินค้า ปรากฏว่า ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบที่อยู่ของผู้ต้องหา จึงได้ดำเนินการเข้าจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

จากการตรวจสอบา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังมีหมายจับคดี ฉ้อโกง ในพื้นที่สถานีตำรวจอื่น ๆ อีก 5 คดี ทั้งข้อหาฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งตัวผู้ต้องหามีบัญชีเฟซบุ๊กกว่า 10 บัญชี ที่มีไว้เพื่อใช้หลอกลวงผู้อื่น โดยมีวิธีการโกงสารพัดรูปแบบ ทั้ง หลอกเป็นแม่ค้าขายทุเรียน, หลอกขายเครื่องแกง, หลอกขายหน้ากากอนามัย, หลอกให้เล่นแชร์ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก, หลอกรับจ้างจัดหาพนักงานทำความสะอาด
 

 

หลอกจัดส่งพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ , หลอกรับซื้อผักหน้าสวนโดยรับประกันราคาขายในตลาด, หลอกรับจัดส่งผักออแกนิค และหลอกขายพืชผลทางการเกษตรต่าง ๆ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินมาให้ผู้ต้องหาก็จะตัดการติดต่อ ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้ โดยในแต่ละครั้งจะหลอกเอาเงินผู้เสียหายจำนวนประมาณ 200 - 10,000 บาท เพราะคิดว่าถ้าเงินจำนวนไม่มาก ผู้เสียหายคงไม่เสียเวลาไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ฉ้อโกงมาแล้วกว่า 50 ราย รวมความเสียหายกว่า 300,000 บาท  

 


ทั้งนี้ ฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชน กรณีแก๊ง "ออนไลน์" ถือว่าเป็นภัยบนโลกออนไลน์ ยังคงเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมักจะอาศัยการล่อลวงโดยการขายสินค้าราคาถูก สินค้าที่ขาดตลาด ตลอดจนการลงทุนที่ได้กำไรเป็นจำนวนมากกว่าปกติ และแม้จะมีความเสียหายต่อบุคคลไม่มากนัก แต่หากนับรวมกับจำนวนผู้เสียหายแล้ว ถือได้ว่าอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าว ยังคงเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเสียหาย ให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากที่สุด "โจรสาวพันหน้า

 

 

 

 

ดังนั้น การเลือกซื้อสินค้าผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่คอยหลอกหากินกับพี่น้องประชาชน
 

 

logoline