ข่าว

เผยเบื้องหลัง สภามร.สั่งถอดถอนอธิการบดี ด้านสืบพงษ์ ปราบใหญ่ เตรียมแจง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ม.รามวุ่น เปิดเหตุ"ดร.เอ้" หลุดอธิการ"ม.ราม" บ่ายเบี่ยงเรียกประชุมกก.สภามหาลัยจนหลายฝ่ายเดือดร้อน เตรียมเจอเด้งสอง หลังเครือข่ายพิทักษ์คุณธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงยื่นป.ป.ช. สอบ ปมเกี่ยวข้องรับโอนร่ที่ดินสุพจน์"ได้มาโดยมิชอบ"

 

กลายเป็นกระแสที่แวดวงการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยให้ความสนใจอีกครั้ง เมื่อเครือข่ายพิทักษ์คุณธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ยื่นเรื่องต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  และอุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ตรวจสอบ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

ขณะที่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา  มีกระแสข่าวว่าที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง มีมติให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ หยุดปฏิบัติหน้าที่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน

 

อย่างไรก็ตามในวันจันทร์ที่ 27  ธ.ค. 64 เวลา 8.30 น.กลุ่มคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ม.รามคำแหง มีการนัดหมายเดินขบวนขับไล่กรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมกับ อธิการบดีเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์

 

เบื้องหลังเรื่องนี้  เริ่มจากเครือข่ายพิทักษ์คุณธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ยื่นเรื่องต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  และอุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ตรวจสอบ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรณีปรากฎข้อมูลว่า  อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยได้รับการโอนที่ดิน 2 แปลงในพื้นที่จังหวัดนครนายก ต่อจากนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม หลังจากที่นายสุพจน์ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ   

 

กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2564 ที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง มีมติให้ถอดถอนนายสืบพงษ์จากการดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน 
        

 

 

เนื้อหาส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากเครือข่ายฯระบุว่า "...อธิการบดีคนปัจจุบันอาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเนื่องจากได้รับโอนที่ดินจำนวน 2 แปลง ในพื้นที่อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก หลัง ป.ป.ช. ได้ตั้งข้อหาบุคคลผู้โอนทรัพย์สินนั้น ร่ำรวยผิดปกติ จึงอาจเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุน ทุจริตต่อหน้าที่ ด้วยการซุกซ่อน ปกปิดแหล่งที่มาทรัพย์สิน เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าก่อน ขณะ หรือหลังกระทำความผิด มิต้องให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง ขณะเดียวกัน ที่ดินดังกล่าวยังได้ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2561 จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561..."นั้น

 

แหล่งข่าว  กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2564 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยนายสืบพงษ์ได้รับการสรรหามาปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีคนปัจจุบัน และเมื่อรับตำแหน่งปรากฏว่านายสืบพงษ์พยายามเลื่อนการประชุมสภามหาวิทยาลัยและบ่ายเบี่ยงการเรียกประชุมถึงสองครั้งโดยเหตุผลที่ให้ไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้   ทั้ง ๆ ที่กรรมการสภามหาวิทยาลัยได้พยายามใช้อำนาจตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยให้มีการเรียกประชุมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่องานราชการ จนส่งผลกระทบต่อนักศึกษา บุคลากร หลักสูตรการเรียนการสอน รวมทั้งภารกิจต่างๆของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก 

 

 

 

 

 

แหล่งข่าว กล่าวว่า "กรรมการสภามหาวิทยาลัยบางท่านเป็นผู้เสนอให้ถอดถอนนายสืบพงษ์จากการดำรงตำแหน่งอธิการบดีเพราะส่งผลกระทบในวงกว้างกับมหาวิทยาลัยและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  และที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาอย่างละเอียด เห็นว่าหากให้นายสืบพงษ์อยู่ในตำแหน่งต่อไปอาจสร้างความเสียหายมากกว่านี้ นอกจากนั้น การปฏิเสธเรียกประชุมสภามหาวิทยาลัยยังอาจเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157  อีกด้วย"

 

แหล่งข่าว กล่าวว่า  ส่วนกระแสข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอเรื่องการโอนที่ดินระหว่างนายสุพจน์ไปยังนายสืบพงษ์นั้น  ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่ง  โดยที่ประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงเพิ่งทราบเรื่องนี้ และจะดำเนินการสอบสวน เพราะน่าจะขัดต่อพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 รวมทั้งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหาร พ.ศ.2562  ในข้อ 6 และข้อ 7   หากเรื่องนี้เป็นจริงก็เท่ากับว่า นายสืบพงษ์ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิดของนายสุพจน์ในครั้งนั้นด้วย

 

แหล่งข่าว ระบุว่า การที่นายสืบพงษ์พยายามไม่เรียกประชุมสภามหาวิทยาลัยเนื่องจากเกรงว่าสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจะดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเรื่องวุฒิการศึกษาและเรื่องที่เกี่ยวพันกับคดีของนายสุพจน์ซึ่งกำลังตกเป็นข่าวในขณะนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541 มาตรา23 วรรคสาม บัญญัติว่า นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระวรรคสอง อธิการบดีพ้นจากตำแหน่งเมื่อ 3) ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง และ 6) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอน โดยตอนนี้นายสืบพงษ์ได้ถูกถอดถอนแล้ว  และสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจะได้ดำเนินการสอบสวนในเรื่องอื่น ๆ ที่มีการร้องเรียนต่อไป


นายสืบพงษ์ผ่านการสรรหาเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงคนที่10 โดยผ่านการสรรหาเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2563 และเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2564 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งที่15/2563ให้นายสืบพงษ์ดำรงตำแหน่งอธิการบดี โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นายสืบพงษ์ดำรงตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่วันที่12ก.ย.2564

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ