"ทีมชาติไทย " ประเดิมทำผลงาน ทวงคืนบัลลังก์เจ้าฟุตบอลอาเซียน ด้วยการคว้าชัยชนะในเกมนัดแรกของรอบรองชนะเลิศ ต่อทีมชาติเวียดนาม โดยแมตช์นี้ ต้องยกเครดิตให้กับ " เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์" กัปตันทีมชาติไทย ที่โชว์ฟอร์มได้เกินคำบรรยาย "คมชัดลึก" มีบทวิเคราะห์ต่อเกมนี้
ชัยชนะนัดแรกของ"ทีมชาติไทย" ใน ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2020 รอบรองชนะเลิศนัดแรก คืนวันพฤหัสที่ 23 ธันวาคม เหนือ "ทีมชาติเวียดนาม" แน่นอนว่า อาจจะทำให้แฟนบอลไทยใจชื้น และเรียกศรัทธากลับมาได้บ้าง แต่อย่าลืมว่า บอลรายการนี้เตะ 2 นัด ถึงแม้ชนะนัดแรกแต่ยังเหลืออีกนัด แต่ไทยได้เปรียบที่มี 2 - 0 ตุนสกอร์เอาไว้ แต่เสียดายที่รายการนี้ไม่นับกฎประตูทีมเยือน
ชัยชนะนัดนี้ ของ "ทีมชาติไทย" ถ้าพูดกันตามตรงจะว่าดีก็ดี หรือมุมที่ควรแก้ไขก็เยอะ โดยเฉพาะการเล่นมวลรวมของเกม หลังไทยได้สกอร์นำ การขึ้นนำเร็วจากจังหวะที่ต้องบอกว่ามีโชคเข้ามาช่วย ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร จ่ายบอลพลาดไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด จ่ายบอลแทบจะเข้าเท้ากองหลังเวียดนาม
แต่เหงียน ฟอง ฮง ดุย ลื่นจับบอลไม่อยู่ บอลเลยหลุดไปถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้าปั๊มบอลกับ ตราน เหงียน มันห์ ผู้รักษาประตูเวียดนามที่พยายามออกมาช่วย แต่เอาไม่อยู่บอลทะลักเข้าประตู ก่อนที่จะมาโชว์การต่อบอลสวย ๆ เข้ายิงลูกที่ 2 โดย ชนาธิป เจ้าเก่า เกมนัดที่ 2 คืนวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม ( คิ๊กออฟ 19.30 น. ) ทีมชาติไทย น่าจะเล่นง่ายขึ้นอีก เมื่อมาได้จุดโทษในช่วงครึ่งหลัง
แต่ ชนาธิป กลับยิงพลาดโดนตราน เหงียน มันห์ เซฟง่ายๆ แต่ถ้ามี VAR เชื่อว่ายังไง เจ ชนาธิป ต้องได้ยิงใหม่อีกครั้ง เพราะผู้รักษาประตูเวียดนามกระโดดออกมานอกเส้นประตูก่อนที่ ชนาธิป จะยิง ทั้งเกมไทยทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ครองเกมเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้ยวบยาบในครึ่งหลัง เป็นผลมาจากที่เวียดนามใช้การเล่นลูกหนักใส่นักเตะไทย
ทั้งเตะนอกเกม เข้าบอลแบบไม่มียั้ง ทำให้นักเตะไทยหลายคนน่วมอย่างเห็นได้ชัด มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เริ่มที่จะถอดตัวหลักออกมาพัก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่ไม่จำเป็น
แต่การเปลี่ยนตัวของ "โค้ชมาโน่" ในเกมนี้ ดูเหมือนจะไม่ปังเหมือนในเกมก่อนๆ เพราะ มาโน่ เลือกจะเพลย์เซฟ ถอดตัวรุกออกแล้วยัดกองกลางลงมาเพิ่มซะอย่างนั้น การเปลี่ยน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงมาแทน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ก่อนเริ่มครึ่งหลังเป็นอะไรที่เข้าใจได้
เพราะครึ่งแรก เจ้ากันต์ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร โดนนักเตะเวียดนามประกบติดประดุจสามี ภรรยา พึ่งคบกันใหม่ๆ แถมเป็นแฟนที่ซาดิสม์ ทั้งทุบ ทั้งตีไม่ยั้ง โค้ชมาโน่ จึงต้องรีบเอา เจ้ากันต์ ออกก่อนที่จะถูกญวนเตะขาหัก จึงเลือกใช้ความเป็นสายบู๊ของ เจ้านิว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงมาตะบี้ตะบันกอดรัดฟัดเหวี่ยงแดนกลางกับนักเตะเวียดนาม ผลตรงกลางไทยไม่ยวบเหมือนช่วงครึ่งแรกที่โดนบด โดนบี้ จนแทบไม่ประติดประต่อ
ส่วนสำรองคนอื่นที่ได้ใส่สนับแข้งลงสนาม ไล่ตั้งแต่ วรชิต กนิตศรีบําเพ็ญ , วีรเทพ ป้อมพันธุ์ ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ตัวด้านในลงมาแทน ชนาธิป กับ ธีรศิลป์ แดงดา เพื่อเก็บบอลในแดนกลางให้มากขึ้น อัดให้แน่น ๆ ส่วน ศุภชัย ใจเด็ด ลงมาแทนตามตำแหน่งกับ สุภโชค สารชาติ ที่เลือกจะใช้ความใหญ่คอยค้ำแดนบนเอาไว้ จึงทำให้มิติในเกมรุกช่วง 10 นาที สุดท้ายหายไปเยอะ
แต่สิ่งที่ทำให้แฟนบอลตะขิดตะขวง คือ ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม ที่แมตช์นี้หลายครั้งจะพยาบามเป็นมานูเอล นอยเออร์ แต่เป็นเพียง "นอยเออร์เซินเจิ้น" โดยเฉพาะลูกที่ออกมาคว้าคอนักเตะเวียดนามนอกกรอบ แฟนบอลไทยทั้งชาติต่างอุทาน และให้พรเจ้าบอยไป 1 บทเบา ๆ จึงเป็นคำถามว่าเจ้าบอย เหมาะสมจะได้ลงต่อเนื่องหรือไม่ หลังพลาดในลักษณะนี้แบบซ้ำ ๆ บ่อยครั้ง
แต่อย่างไร ฉัตรชัย คงไม่เสียประตู และการออกบอลด้วยเท้ายังถือว่าพึ่งพาได้ สิ่งที่ต้องปรับแก้ของทีมชาติไทย คือการยืนระยะให้ได้ เพราะหลายๆครั้งที่เวียดนามพยามโหมบุกใส่อย่างหนัก ทีมชาติไทยมีอาการสะเปะสะปะให้เห็น ยังโชคดีที่เวียดนามยิงชนเสาชนคาน ทำให้ไข่ทีมชาติไทยยังไม่แตก
เพราะถ้าเวียดนามไล่มา 1 ลูกได้เมื่อไหร่ รับรองว่าบันเทิงใจกันอย่างแน่นอน และเชื่อว่าเกมที่สองเวียดนาม จะมาเล่นโถมใส่ไทยแบบหมดหน้าตักอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ขอชื่นชมมาโน่ โพลกิ้ง และลูกทีมที่รวมพลังฝ่าด่านหินนัดแรกไปได้ ด้วยระเบียบวินัย และความมีคลาสบอลที่เหนือกว่าเวียดนาม ที่ถึงแม้เขาจะไล่เตะมากแค่ไหน
หลายลูกต้องตั้งคำถามว่า ซาอูด อาลี อัล อับบา ผู้ตัดสินจากกาตาร์ สอบผ่านฟีฟ่าอีลิต มาได้อย่างไร ที่ปล่อยนักเตะเวียดนามหนีรอดไปแดงไปได้ แม้ ปาร์ค ฮัง ซอ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติเวียดนาม จะเรียกร้องให้มี VAR แต่อย่าลืมว่าถ้ามี VAR เวียดนามอาจเหลือนักเตะอยู่ในสนามไม่ถึง 10 คนก็เป็นได้
ขอขอบคุณภาพจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง