ลุง"ชาญ" วัย 70 ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกนายกชื่อดัง ในจ.ระยองนำสมุดบัญชีไปโพสต์ในเพสดังระยองรับบริจาค ขอความช่วยเหลือโดย มีเงินเข้ามาบริจาคเป็นจำนวนมาก หลังแม่เสียชีวิตลงโดยตัวเองนั้นเป็นคนยากฐานะยากจนแต่ไม่เห็นยอดเงินสักบาท
25 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เดินทางไปพบกับ นายสมชาย เที่ยงอิ่ม อายุ 70 ปี อาชีพรับจ้าง อาศัยอยู่ในบ้านภายใน อำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง ได้ร้องขอความเป็นธรรม ว่าเมื่อ 7 เดือนก่อน มารดาเสียชีวิตแล้ว นายสมชายซึ่งมีฐานะยากจน ไม่มีเงินจะจัดงานศพให้มารดา ปรากฎว่ามี นายกเทศบาลคนหนึ่ง ในจ.ระยอง ได้ยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยนำเลขบัญชี ของนายสมชายไปโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ชื่อดังเพจหนึ่ง โดยได้เก็บสมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มของนายสมชายไว้
ต่อมามีผู้ใจบุญหลายราย บริจาคเงินเพื่อเป็นการช่วยเหลือเข้ามาเป็นจำนวนเงินกว่า 2 แสนบาท แต่นายสมชาย ไม่สามารถเบิกเงินออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ หากต้องการใช้เงิน ทางนายกเทศบาลคนดังกล่าว จะเป็นผู้เบิกเงินมาให้ครั้งละ 1,000 - 2,000 บาท เท่านั้น โดยที่ไม่ทราบว่ามียอดเงินบริจาคในบัญชีธนาคารอยู่จำนวนเท่าใด
นายสมชาย ยังบอกอีกว่า เคยเข้าไปขอสมุดบัญชี และ บัตตรเอทีเอ็ม จากนายกเทศบาลคนดังกล่าว แต่ถูกปฏิเสธ และอ้างว่าเงินในบัญชีไม่มีแล้ว ซึ่งนายสมชาย ไม่รู้จะอย่างไร จึงได้ปรึกษากับ นายสิทธิพล พัฒนงาม อดีตนายกเทศบาล ตำบลบ้านค่าย พร้อมด้วย สท. พิทักษ์ สุวรรณวงศ์ นายนที วรเวก เลขานุการสภา สท. ธรยุธท วงศ์ไทย พร้อมด้วย นาย สมภพ กังกเวคิน ประธานสภา พร้อมคณะโดยขอความช่วยเหลือ
ต่อมา สท.พิทักษ์ สุวรรณวงศ์ นำนายสมชาย เข้าแจ้งความเพื่อนำใบแจ้งความนำไปเปิดสมุดบัญชีใหม่ที่ธนาคาร เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ statement ของนายสมชาย ปรากฎว่าเงินในบัณชีมียอดเงิน ที่มีผู้บริจาคและมีการเบิก ถอนออกนำไปใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งล่าสุดยังคงมีเงินค้างอยู่ในบัญชีจำนวน 60,000 บาท
ทั้งนี้นายสมชาย ได้มอบสมุดบัญชีที่เปิดใหม่ให้กับทางทีม สท.พิทักษ์ เป็นผู้รับผิดชอบและดำเนินการเบิกถอนให้กับตนในครั้งต่อไป ส่วน การเปิดรับบริจาคช่วยเหลือนายสมชายนั้น ทางนายกเทศบาล ได้ปิดรับการบริจาคไปแล้ว เนื่องจากได้ยอดเงินตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จำนวน 200,000 บาท
ต่อมาทางทีมข่าวได้ประสานงานไปทาง นายกเทศบาล คนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงกรณีที่นายสมชายร้องขอความเป็นธรรม ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงถูกต้องประการใด โดยนายกเทศบาลคนดังกล่าว แจ้งเพียงว่า "ไม่มีและไม่ให้แล้ว" โดยยืนยันว่าว่าเงินจำนวนนี้ยังมีอยู่ในบัญชีครบทุกอย่าง ที่ต้องเก็บสมุดบัญชีและ บัตรเอทีเอ็ม ของนายสมชายไว้ เนื่องจากเกรงว่า นายสมชายจะเบิกเงินไปใช้จ่ายในทางที่ไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ นายสมชาย ได้ร้องขอ และวิงวอนให้นายกเทศบาล ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และแสดงตัวเลขในบัญชี เนื่องจากตอนนี้นายสมชายถูกให้พักงาน ไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจึงอยากจะขอร้อง เพื่อความอยู่รอดของตนเองในอนาคตต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง