ข่าว

ฝั่ง "เมียนมา" ไม่พบการสู้รบเพิ่ม ผู้หนีภัยความไม่สงบ สมัครใจกลับบ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี พื้นที่ตรงข้ามอำเภอพบพระ ไม่พบการสู้รบเพิ่ม และ ไม่กระทบต่อพื้นที่ฝั่งไทย

วันที่ 23 ธ.ค.64 จากการสู้รบระหว่างกองกำลังทหารเมียนมาและชนกลุ่มน้อย ในพื้นที่อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี พื้นที่ตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย หมู่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จนส่งผลทำให้มีผู้หนีความไม่สงบชาวเมียนมา ล่าสุดจำนวนประมาณ 268 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิงและผู้สูงอายุ อพยพ ข้ามแดน เข้ามาในฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ต้องใช้พื้นที่ศาลาวัดบ้านหมื่นฤาชัย เป็นพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว พร้อมให้การช่วยเหลือทั้งที่พัก และอาหาร ทั้ง 3 มื้อ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน  

 

ส่วนสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการเกิดการสู้รบเพิ่ม ซึ่งในพื้นที่บริเวณชายแดนฝั่งไทย ไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในครั้งนี้ โดยเฉพาะราษฎรในพื้นที่บ้านหมื่นฤาชัย ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 กองกำลังนเรศวร ยังจัดกำลังรักษาอธิปไตย และดูแลความปลอดภัยแก่ราษฏร ตลอด 24 ชั่วโมง  

ฝั่ง "เมียนมา" ไม่พบการสู้รบเพิ่ม ผู้หนีภัยความไม่สงบ สมัครใจกลับบ้าน

ขณะที่การช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบจากฝั่งเมียนมา บริเวณพื้นที่บ้านดอนไชย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นายศรศักดิ์ ดวงมณี นายกเทศมนตรีตำบลแม่ตาว ยังคงต้องให้การช่วยเหลือ ผู้หนีภัยจากความไม่สงบจากฝั่งเมียนมา โดยเฉพาะกลุ่มคนไทย ที่อาศัยในฝั่งเมียนมา ที่ต้องอพยพข้ามแดนเข้ามาในฝั่งไทย ซึ่งยังคงไม่มั่นใจในความปลอดภัย จากการสู้รบในฝั่งเมียนมา จึงขออาศัยบ้านเรือนของญาติพี่น้อง ในฝั่งไทยก่อน ทั้งนี้ทางเทศบาลตำบลแม่ตาว จึงได้มีการนำผ้าห่ม ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภคบริโภค ที่จำเป็น เพิ่มเติม ช่วยเหลือให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าว อีกกว่า 100 ชุด 

ฝั่ง "เมียนมา" ไม่พบการสู้รบเพิ่ม ผู้หนีภัยความไม่สงบ สมัครใจกลับบ้าน

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา มีการแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศเพิ่ม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 กองกำลังนเรศวร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกในการส่งกลับ ซึ่งล่าสุด มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่พักพิงในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ทั้งอำเภอแม่สอดและพบพระ รวมจำนวนคงเหลือ จำนวน 3,702 คน

 

พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงเหตุการณ์สู้รบในเมียนมาระหว่าง ทหารกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย ใกล้แนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมข่าวลือมีการใช้กำลังทางอากาศ ว่า เหตุการณ์ในเมียนมา ไม่เกี่ยวข้องกับไทย เป็นเรื่องการแก้ปัญหาภายใน ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือเราไม่ไปเกี่ยวยุ่งกับเขา แต่ยังดูแลน่านฟ้าและผลประโยชน์ของเราตามหน้าที่ โดยกองทัพอากาศมีศักยภาพในการเฝ้าระวังด้วยระบบต่างๆ จึงเห็นการเคลื่อนไหวทางอากาศทั้งหมด

 

ทั้งนี้ ภารกิจลาดตระเวนและรักษาเขตแดน เป็นหน้าที่ของทุกเหล่าทัพ ในส่วนของกองทัพอากาศได้ปฏิบัติหน้าที่ทุกวันอยู่แล้ว ทั้งการฝึกและการปฏิบัติจริง เมื่อเรื่องไม่เกี่ยวอะไรกับไทย แล้วจะขึ้นบินไปยั่วยุทำไม พร้อมยืนยันว่า อากาศยานของทางเมียนมาไม่เคยล้ำเข้ามาฝั่งไทย 

ฝั่ง "เมียนมา" ไม่พบการสู้รบเพิ่ม ผู้หนีภัยความไม่สงบ สมัครใจกลับบ้าน ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ สุขแว่น ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตาก

logoline