"โอไมครอน" เป็นสาเหตุติดเชื้อใหม่กว่า 73% ในสหรัฐอเมริกา แทน เดลตา แบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น ขณะมีผู้เสียชีวิตรายแรกที่เท็กซัส
ความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกา ล่าสุด สำนักงานป้องกันและควบคุมโรค (ซีดีซี) แถลงว่า ไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอน เป็นสาเหตุการติดเชื้อรายใหม่ถึง 73% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นยอดติดเชื้อโอไมครอน ครองสัดส่วนการติดเชื้อใหม่ เพิ่มขึ้นเกือบ 6 เท่า หรือเพิ่มจากราว 13% ภายในสัปดาห์เดียว
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เป็นปรากฏการณ์เดียวกับหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นแอฟริกาใต้ เดนมาร์คและอังกฤษ และว่าในบางรัฐ เชื้อโอไมครอน ครองผู้ติดเชื้อใหม่เกือบทั้งหมด เช่นที่นิวยอร์ค และนิวเจอร์ซี มีสัดส่วนราว 92% ส่วนรัฐวอชิงตัน อยู่ที่ราว 96%
การแผ่ขยายอย่างรวดเร็วของโควิด-19 กลายพันธุ์ โอไมครอน ตอกย้ำความวิตกที่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยาน จะเพิ่มแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขของสหรัฐ แม้ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าอาการส่วนใหญ่ ไม่รุนแรงเท่ากับเดลตาก็ตาม
วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขเมืองแฮร์ริส รัฐเท็กซัส ประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตจากติดเชื้อกลายพันธุ์ โอไมครอนแล้ว 1 ราย เป็นชายวัย 50 ปีเศษที่มีความเสี่ยงสูงจากภาวะแทรกซ้อน เพราะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนกับมีโรคประจำตัว เชื่อว่า ชายคนนี้ เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนในสหรัฐอเมริกา
ด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ มีกำหนดแถลงต่อชาวอเมริกันในวันอังคารที่ 21 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น แต่โฆษกทำเนียบขาว เผยว่า ไบเดนไม่มีแผนจะล็อกดาวน์ประเทศเพื่อรับมือกับโควิดระลอกใหม่ แต่จะเป็นถ้อยแถลงที่พุ่งตรงไปที่ชาวอเมริกัน ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีน และแผนงานเพิ่มการเข้าถึงการตรวจเชื้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง