ข่าว

  4 นัด 12  คะแนน  "มาโน่   โพลกิ้ง" คนที่ใช่ ? ของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"คมชัดลึก" วิเคราะห์ฟุตบอลทีมชาติไทย หลังเกมพบสิงคโปร์ "เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ2020" การตัดสินใจของ " มาโน่ โพลกิ้ง" ในการส่ง 11 ตัวจริง "ทีมชาติไทยชุดบี " ลงเล่นในเกมนี้ ใครสอบได้ กับผลงานในสนามเพื่อโอกาสไปต่อ ใครสอบตก รวมทั้งความเป็นไปได้ ของ"เฮดโค้ช" รายนี้ที่จะได้ไปต่อ

เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่ กับเปลี่ยนผู้เล่น 11 คน  แบบยกชุดในเกมกับดวลกับสิงคโปร์    ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ ของ "มาโน่ โพลกิ้ง"  หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย / เฮดโค้ชทีมชาติไทย เพราะด้วยสถานการณ์ ที่ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จำเป็นจะต้องเข็นผู้เล่นตัวหลักที่ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง 3 เกม  ก่อนหน้านี้ลงสนาม  ในแบบ  "ฟูลทีม" 

 

 

แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมคือ การกล้าได้ กล้าเสีย  โนสน โนแคร์  แฟนบอลโซเชียล    "มาโน่ โพลกกิ้ง" ตัดสินใจที่จะเก็บตัวหลัก   นั่งหย่อนแข้งหย่อนขาข้างสนาม แล้วเอาตัวสำรองลงทั้งหมด ถึงแม้ว่าถ้าผลการแข่งขันอาจจะออกมาแพ้ แต่อย่างน้อย ๆ คือได้ลองนักเตะที่ยังไม่ได้ลงเล่น ว่าดีพอจะทดแทนตัวจริงได้หรือไม่  ซึ่งผลที่ได้กลับมามันดีเกิดคาด  คือการอัด   สิงคโปร์ คาบ้าน 2-0   คว้าแชมป์กลุ่มปิดท้ายการเข้ารอบแบบหล่อ ๆ  4 นัด มี  12  คะแนน 

 

ทั้งหมดต้องยกให้ "โค้ชมาโน่" และทีมงานสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ที่เลือกจะลองอะไรใหม่ ๆ ทำให้แฟนบอลไทยเห็นแล้วว่า คุณภาพตัวสำรองของทีมชาติไทยชุดนี้  ใกล้เคียงกับตัวหลักพอสมควร พร้อมกับแสดงให้เห็นว่า"ช้างศึก"  ไม่ได้กลัวใครแล้วในอาเซียน นักเตะทุกคนของ  "ทีมชาติไทย" ที่ลงเล่นต่างมีความกระหาย พร้อมจะลงพิสูจน์ตัวเองในสนาม

 

 ไล่เรียงจาก ศิวรักษ์  เทศสูงเนิน  ผู้รักษาประตูจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สำหรับ  "กัปตันแชมป์"  ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ ถึงแม้ว่าการมารายการนี้  จะตกเป็นมือ 2 แต่เมื่อได้โอกาสลงมาเก็บคลีนชีตได้ พร้อมกับใช้ประสบการณ์บัญชาการแนวรับได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเซฟลูกสำคัญ ๆ ได้หลายลูก ทำให้ไทยยังเสียแค่ 1 ประตูจาก 4 เกม

 

 

  คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ บอกตรง ๆ ว่าทำให้เห็นทิศทางที่ดีของทีมชาติไทย หลังทั้ง เอเลียส ดอเลาะห์ และ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ ต่างทำผลงานได้ดี คุณภาพแทบไม่แตกต่างจากคู่ตัวหลัก โดยเฉพาะเอเลียส ดอเลาะห์ ที่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด ในฐานะผู้ยิงประตูเบิกร่องให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ และทั้งคู่ช่วยกันเก็บ อิคห์ซาน ฟานดี้ ดาวยิงของสิงคโปร์ ใส่กระเป๋ากางเกงสบาย ๆ และลูกกลางอากาศก็ป้องกันได้ดีเช่นเดียวกัน 

 

 แบ็คซ้ายและแบ็คขวา ครึ่งแรก ทริสตอง โด รับบทบาทเป็นแบ็คขวา  ตามตำแหน่งถนัด เรื่องการเล่นเกมรับหายห่วง ทำได้ดีตามมาตรฐาน  แต่การเล่นเกมรุกยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม เกี่ยวกับการเปิดบอลสุดท้ายที่ทำได้ไม่ดี ส่วน สุริยา สิงห์มุ้ย ครึ่งแรกได้ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นแบ็คซ้าย ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เล่นตามสิ่งที่โค้ชวางเอาไว้ได้ดี แต่เสีบดายดันไปโดนเตะคิ้วแตกตั้งแต่ต้นครึ่งแรก ทำให้ครึ่งหลัง โค้ชมาโน่ ไม่เสี่ยงฝืน สลับเอา   ฟิลิป โรเลอร์ ลงมาแทน แล้วขยับ ทริสตอง โด มายืนทางซ้ายแทน 

 

 

ส่วนในแดนกลางต้องยกให้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กองกลางตัวรับ จากเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เดินไปหานายอำเภอแจ้งเกิดได้สำเร็จ ในการเป็นตัวจริงทีมชาติไทยนัดแรกในชีวิต คุมแดนกลางได้เป็นอย่างดี ดูแล้วเหมือนคนที่เล่นทีมชาติใหญ่มานาน เยือกเย็นไม่มีตื่นสนาม ถือเป็นคนที่เล่นได้โดดเด่นในสนาม

 

  ขณะที่ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ สองกองกลางต่างทำผลงานได้ตามมาตรฐาน โดยเฉพาะ"เจ้ายิม" วรชิต ที่แอสซิสต์ให้  ศุภชัย ใจเด็ด   พังประตูที่สองให้ทีมชาติไทย ขณะที่  ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ สามารถป่วนทางริมเส้นได้ดี ขณะที่  บดินทร์ ผาลา หากไม่นับลูกที่ยิงฟรีคิกที่เอเลียส ดอเลาะห์ ตามซ้ำ แทบไม่มีอะไรโดดเด่นเลย 

ศุภชัย ใจเด็ด ถือว่าปลดล็อกประตูแรกในรายการนี้  ตามความตั้งใจได้สำเร็จ ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม "เจ้าอาร์ม" แสดงให้เห็นถึงความกระหายในการเล่น นอกจากการวิ่งหาช่องแบบทะลุทะลวงแล้ว ยังคอยช่วยวิ่งไล่บอลแบบตำราบอลเพรสซิ่งแดนบนของ  "โค้ชมาโน่" ได้เป็นอย่างดี 

 


  ขณะที่ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลัง พอจะโดดเด่นหน่อยจะมี  ฟิลิป โรเลอร์ และ ศิวกรณ์ เตียตระกูล พอจะเห็นความแตกต่าง ขณะที่ พิชา อุทรา มีจังหวะฉาบฉวยให้เห็น แต่ยังไม่ได้โดดเด่นมาก ขณะที่ 2 สำรอง ที่น่าผิดหวังที่สุดคือ   ในทัศนะผู้เขียน คือ ปกเกล้า อนันต์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ลงมาแล้วทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะจังหวะจบสกอร์ที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ขาดความเฉียบคมไปเยอะ 

 

  สำหรับ ปกเกล้า อนันต์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร เกิดเป็นเครื่องหมายคำถามว่า ทั้ง 2 คน ดีพอจะกลับมาติดทีมชาติไทย หลังจบอาเซียนคัพแล้วหรือไม่ เพราะดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจแท็คติกของ  "โค้ชมาโน่"  โดยเฉพาะอดิศักดิ์ ไกรษร เป็นกองหน้าคนเดียวที่ยังยิงประตูไม่ได้ ส่วน   ปกเกล้า  อนันต์  แทบจะหมดลุ้นแล้วในรอบต่อไป

 

 

สำหรับการเล่นของทีมชาติไทยชุดนี้ แทบเรียกว่าเล่นเหมือนชุดตัวหลัก ทั้งการเดินหน้าบุกไม่ยั้ง การไล่บีบเพรสซิ่งสูงในแดนคู่แข่ง เรียกว่าเนียนตาไม่ต่างกันอาจมีจุดบกพร่องบ้าง แต่เข้าใจได้ เพราะว่าชุดนี้ร่วมเล่นด้วยกันครั้งแรก อาจมีต้อใช้เวลาจูนบ้าง


ทุกอย่างสะท้อนให้เห็นว่า บางทีเราอาจไปมองหาโค้ชที่มีชื่อเสียงและโปรไฟล์ดี ๆ  มากเกินไป ทั้งที่โค้ชระดับโปรไลเซนส์ในบ้านเรามีหลายคน ที่มีฝีมือและรู้จักนักเตะไทยเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่า "โค้ชมาโน่"  อาจไม่ใช่คนไทยแต่ถือว่าอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมายาวนาน ย่อมรู้จักนักเตะไทยเป็นอย่างดี 


  บางครั้งโค้ชมาโน่ อาจเป็นคนที่ถูกฝา  ถูกตัวของทีมชาติไทย แต่สัญญาของ"โค้ชมาโน่"   อยู่จนถึงจบรายการนี้เท่านั้น เท่ากับว่ารายการนี้คือตัวชี้วัดอนาคตของโค้ชมาโน่ หากได้แชมป์ก็มีลุ้นจะได้สัญญาระยะยาว แต่ถ้าพลาดตกรอบรองหรือแพ้นัดชิง อาจต้องโบกมือลาทีมชาติไทย แม้การเล่นจะดูสนุกเร้าใจแค่ไหน แต่เมื่อไม่มีผลงาน ย่อมต้องตกเก้าอี้เป็นธรรมดา ตาม "ไทยแลนด์สไตล์"    

 

  4 นัด 12  คะแนน  "มาโน่   โพลกิ้ง" คนที่ใช่ ? ของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย    4 นัด 12  คะแนน  "มาโน่   โพลกิ้ง" คนที่ใช่ ? ของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย    4 นัด 12  คะแนน  "มาโน่   โพลกิ้ง" คนที่ใช่ ? ของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย    4 นัด 12  คะแนน  "มาโน่   โพลกิ้ง" คนที่ใช่ ? ของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย  ทีมชาติไทย  ทำผลงานนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอล เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2020  โดย เอาชนะสิงคโปร์ 2-0  เป็นจ่าฝูงของกลุ่ม A ผ่าน  เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ  โดยการแข่งขัน นัดประวันเสาร์ที่ผ่านมา " มาโน่ โพลกิ้ง" หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย  ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนผู้เล่น 11  ตัวจริง  ในแบบยกชุด

 

ขอขอบคุณภาพ จากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ