"ครม." แจกของขวัญปีใหม่ชุดใหญ่ ช้อปดีมีคืน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ด่วนประชุม "คณะรัฐมนตรี"วันนี้ เคาะของขวัญปีใหม่ชุดใหญ่แจกประชาชน กระทรวงการคลังชง ช้อปดีมีคืน-ผ่อนดีมีคืน- ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ลุ้น คนละครึ่ง เฟส 4 ส่วน สธ. ชงต่อเงินค่าเสี่ยงภัยให้กับ อสม. เดือนละ 500 บาท ไปอีก 6 เดือน
การประชุม "คณะรัฐมนตรี" วันนี้ (21ธ.ค.64) กระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการของขวัญปีใหม่ 2565 ให้ "ครม." พิจารณาในเบื้องต้น จะมีโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งจะนำกลับมาใช้ใหม่ตามคำเรียกร้องของภาคเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้า โดยจะมีการให้สิทธิซื้อสินค้าเพื่อนำวงเงินไปใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีสูงสุด 30,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ซึ่งจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงต้นปี 2565 รวมถึงมาตรการภาษีเงินได้นิติบุคคลอื่นๆ ด้วย
และกระทรวงการคลัง ยังจะชงมาตรการผ่อนดีมีคืนของธนาคารรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ให้กับลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนดี โดยจะคืนให้รายละไม่เกิน 1,000 บาท
ส่วนโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 อยู่ระหว่างพิจารณาวงเงินอาจเป็นคนละ 1,500 บาท หรือ 3,000 บาท และระยะเวลาการใช้จ่ายที่จะมอบให้ประชาชน เนื่องจากคนละครึ่ง เฟส3 จะสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้ โดยผู้ได้รับสิทธิ์และมีการใช้จริง รวม 26.30 ล้านคน แบ่งใช้ครบวงเงินที่ให้ 6.5 ล้านคน ส่วนอีก 19.80 ล้านคน ใช้สิทธิ์แต่ยังไม่เต็มวงเงินที่ให้
โดยคนละครึ่งเฟส 3 นั้น รัฐบาลได้โอนเงินให้รวม3,000 บาท ตั้งแต่ ก.ค.-ธ.ค.2565 ซึ่งต้องหารือสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับวงเงินที่จะนำมาใช้ เนื่องจากตามพ.ร.ก.กู้เงิน มีวงเงินเหลือเพียง 200,000 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนเรื่องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 นั้น กระทรวงสาธารณสุขจะนำเสนอต่อที่ประชุม "คณะรัฐมนตรี"ขอใช้งบกลางจำนวน 3,510 ล้านบาท ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ต่อเงินค่าเสี่ยงภัยให้กับ อสม. ไปอีก 6 เดือน เดือนละ 500 บาท
กระทรวงพลังงาน เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการส่งเสริมการใช้และส่งเสริมการลงทุน รวมถึงมาตรการภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้รถ EV ในประเทศ
สำหรับแพ็กเกจที่จะประกาศนี้จะสนับสนุนทุกฝ่ายทั้งผู้ผลิต ลูกค้าที่ซื้อรถ EV ซึ่งการสนับสนุนของรัฐบาลจะทำให้เกิดดีมานด์ตามโรดแมปที่รัฐบาลได้วางไว้ โดยจะสามารถผลิตรถอีวีได้ถึง 10% ของการผลิตรถยนต์ในปี 2568 และขยายไปถึง 30% ภายในปี 2573
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชงมาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ให้สิทธิอีก 2 ล้านห้อง เดินทางช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2565 เสนออนุมัติงบประมาณ 13,200 ล้านบาท