"น้องชมพู่" เจ้าของ "กระเป๋าแบรนด์เนม" สุดหรู ยืนยันรับเงิน 2 ล้านแทนคำขอโทษ

20 ธ.ค.2564  เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.จิดาภา  หรือ น้องชมพู่ อายุ 24 ปี เจ้าของ กระเป๋าแบรนด์เนม หรู พร้อมด้วยทนายเกิดผล แก้วเกิด  เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ในข้อหา  ยักยอกทรัพย์ และ ทำให้เสียทรัพย์

ทนายเกิดผล ระบุว่า วันนี้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน และนำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติม รวมถึงใบรับรองจากสถาบันตรวจสอบกระเป๋า ที่ทางเจ้าของสถาบันนำมายื่นไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกับ กระเป๋าแบรนด์เนม  Hermes ทั้งนี้ ในอนาคต จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ต้องพิจารณาดูว่าเป็นการกระทำความผิดกี่กรรม และครั้ง จากการไลฟ์สดที่กล่าวหาว่ากระเป๋าเป็นของปลอม

ทางด้านน.ส.จิดาภา หรือน้องชมพู่ เจ้าของ กระเป๋าแบรนด์เนม  ยืนยันว่า จะไม่ยอมความ และดำเนินคดีถึงที่สุด หากคู่กรณี ไม่จ่ายเงิน 2 ล้านบาทตามที่ประกาศไว้ เพราะมองว่าเขาไม่รู้สึกสำนึกว่าทำผิด พูดย้ำแต่ว่าไม่ได้ยักยอก ทั้ง ๆที่ผ่านมา พฤติกรรมส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ ทั้งการไม่ยอมคืนกระเป๋า และใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดังนั้นอยากให้การกระทำในครั้งนี้เป็นบทเรียน ว่าต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง ส่วนตัวยอมรับว่ามีความกังวลใจอยู่บ้าง แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนเรื่องการเปลี่ยนชื่อ ไม่รู้สึกอะไร เพราะถือเป็นเรื่องที่เจ้าตัวพูดมาเอง

"ยืนยันว่า ให้ทุกอย่างจบที่กระบวนการชั้นศาล แม้จะขอโทษก็ไม่ยอมรับ ยังยืนยันคำเดิมว่าจะต้องจ่ายเงินสด 2 ล้านบาทเท่านั้น อยากให้เขารับผิดชอบคำพูด เพราะเราไม่ได้เป็นคนเรียกร้องเอง เขาเป็นคนเสนอ พูดขึ้นเองทั้งนั้น" 

ส่วนสาเหตุที่เลือกขายกระเป๋าแบรนด์เนม กับคู่กรณีคนนี้  น้องชมพู่  ระบุว่า เพราะเป็นผู้ที่ให้ราคาดีที่สุด คือ 3.95 แสนบาท แต่เมื่อเขาเห็นภาพที่เขาเขียนบนกระเป๋าเราแบบนั้น สำหรับคนเล่นแบรนด์เนม “รู้สึกปวดใจ จนร้องไห้ และที่สำคัญการทำให้กระเป๋ามีร่องรอย ทำให้ราคายิ่งตกลงไป”