ผบ.ตร.สั่งระดมพนักงานสอบสวน ร่วมกรมราชทัณฑ์ดำเนินคดีหัวโจก ก่อเหตุจลาจลในเรือนจำ จ.กระบี่ และจัดทีมแพทย์ ตรวจสุขภาพตำรวจที่ปฏบัติหน้าที่
กรณีเกิดเหตุจลาจลภายในเรือนจำ จ.กระบี่ ตั้งแต่คืนวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มนักโทษที่ก่อเหตุจลาจล จุดไฟเผาอาคารเรือนนอนภายในเรือนจำ ซึ่งเป็นเรือนไม้เก่าจนเสียหายทั้งหลัง และจับกุมแกนนำที่ก่อเหตุออกมาได้จำนวน 31 ราย
วันที่ 18 ธ.ค.64 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งกรมราชทัณฑ์ นำรถขนผู้ต้องหาของเรือนจำต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้และ เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร รวม จำนวน 13 คัน เดินทางมาเคลื่อนย้ายผู้ต้องขับ ที่เหลือจำนวน กว่า 400 คน ย้ายไปควบคุม ที่เรือนจำกลางจังหวัดสงขลา โดยมีญาติผู้ต้องขังจำนวนหนึ่ง เดินทาง มารอติดตาม ด้วยความเป็นห่วงว่าญาติจะถูกส่งตัวไป ควบคุมที่จังหวัดไหน
หลังจากเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังออกจากเรือนจำทั้งหมด เจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน ภาค 8 และ จังหวัดกระบี่ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่เรือนจำ ระดมทีมเข้าพื้นที่เก็บหลักฐาน ที่เกิดเหตุภายในเรือนจำ
ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.ศราวุธ การพานิช ผู้ช่วยผบ ตร. ได้เดินทางมาที่เรือนจำจ.กระบี่ จากนั้นแถลงข่าวร่วมกับทาง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง โดยอธิบดีระบุว่า ได้เข้าไปตรวจดูภายในแล้ว พบว่ามีอาคารเรือนนอนเก่าเสียหายทั้งหลัง มีเอกสารถูกทำลายไปจำนวนมาก โรงครัว และมีการเอาอาวุธมีดไปใช้ในการก่อเหตุ สำหรับความเสียหายในภาพรวมนั้น หลังย้ายผู้ต้องขังออกทั้งหมดจึงจะสามารถเข้าไปได้ ตรวจสอบได้ทั้งหมดอีกครั้ง
ส่วนการสอบสวนนั้นจะทำการสอบสวน ทั้งที่เขาบินและที่กระบี่ว่า มาจากสาเหตุใดกันแน่ มาจากโควิดหรือไม่ ส่วนเรือนจำที่เสียหายนั้น จะซ่อมแซมก่อน ส่วนการย้ายเรือนจำ คงเป็นเรื่องที่จะดำเนินการต่อไป
ส่วนที่ระบุว่ามาจากโควิดนั้น จริงๆ ทางเรือนจำ ได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้ง 2 เข็ม ซึ่งที่เหลือก็จะเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ เมื่อเข้ามาหากยังไม่ฉีด ก็จะฉีดทันที ส่วนใครฉีดมาแล้ว 1 เข็ม ก็จะรอตามกำหนดเวลาต่อไป
ส่วนกรณีว่าจะเป็นการบกพร่องของ จนท.เรือนจำกระบี่ด้วยหรือไม่นั้น ก็จะทำการสอบสวนเช่นกัน
ขณะที่ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุด้วยว่า ทาง ผบ.ตร.ได้เป็นห่วงและสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนในภาค 8 ระดมกำลังกันมาสอบสวน เพื่อให้คลี่คลายว่ามาจากสาเหตุใด และดำเนินคดีกับใครบ้าง ประเด็นที่ห่วงใยอีกคือ เรื่องสุภาพของเจ้าหน้าที่ โดยจะให้ทีมแพทย์ พยาบาล ตรวจร่างกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำ ซึ่งจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.)
ส่วนการจะแจ้งข้อหาอย่างไรนั้น คงต้องรออีกระยะให้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำงานก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง