"รปภ." หนุ่มใหญ่ง้อเมียเด็กไม่สำเร็จ รัว 5 นัด ก่อน "ยิงตัวตาย" หนีผิด

18 ธ.ค.2564  พ.ต.ท.สราวุธ มหาชัย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ลพบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายบริเวณลานจอดรถของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่  ต.ช่องสาริกา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กฤช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม ทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุบริเวณเลียบตาชั่งรถหน้าบริษัท มีพนักงานขับรถ ประชาชน จำนวนมากจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว บนพื้นพบร่าง น.ส. ชลิตา (สงวนนามสกุล)  อายุ 22 ปี  นอนหงายเสียชีวิตในเครื่องแบบ รปภ. ใกล้ศพมีปลอกกระสุนปืนตกเกลื่อน มีเลือดไหลซึมเปื้อนเสื้อ เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

 

เบื้องต้นพบว่า น.ส.ชลิตา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 5 นัด เมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. โดยคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี หลังจากยิงแล้วได้ค้นตัวผู้เสียชีวิต คว้ากุญแจรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีฟ้าหมายเลขทะเบียน 1กท -7310 ลพบุรี ของผู้เสียชีวิตขับหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง

 

 

 

ในขณะเดียวกัน ที่ใกล้จุดเกิดเหตุพบนางสุภาพร (สงวนนามสกุล)  อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิต นั่งร้องให้ให้การด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกสาวของตน ซึ่งทำงานเป็น รปภ. เมื่อเช้าได้มาเข้าเวร ในเวลา 08.00 น. และตนมาทราบจากเพื่อน รปภ.ว่าลูกสาวถูกยิงเสียชีวิต ที่ลานจอดรถ โดยนางสุภาพร ให้การว่า ผู้ที่ลงมือยิงลูกสาวของตนก็คืออดีตสามี ของลูกสาว ชื่อนาย อนุสรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้มาขนของออกจากบ้าน หลังเลิกรากับลูกสาวตนได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ซึ่งตนเองก็ยังคิดว่าเลิกรากันด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไรคาใจกันอีก หลังจากที่อยู่กินกันมากว่า 2 ปี

 

นางสุภาพร ยังกล่าวอีกว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังว่านายอนุสรณ์ อดีตสามี ที่เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี เพื่อมาขนของออกจากบ้าน พกอาวุธปืนมาโชว์แต่ไม่แน่ใจว่า เป็นปืนจริงหรือปืนปลอม นายอนุสรณ์ พยายามมาง้อขอคืนดี แต่ด้วยอายุมากกว่า 27 ปี และเป็นคนชอบหึงหวง กล่าวหาตนในทางที่ไม่ดี ว่าคบชู้ ซึ่งลูกสาวตนเบื่อหน่าย อายเพื่อนที่ต้องทนความหึงหวงของดีตสามี จึงขอเลิกลาต่อกันด้วยดี เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่มีลูกด้วยกัน

 

 

ด้านนายประเวทย์ สุทธา อายุ 46 ปี หน.รปภ. ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 07.30 น. ผู้เสียชีวิตได้จอดรถจักรยานยนต์ที่ลานจอดและเดินมาเข้าเวร โดยที่ไม่มีใครคาดว่า อดีตสามีที่ดักรอได้ใช้อาวุธปืนไล่กระหน่ำยิง และจ่อยิงแบบเผาขน จำนวน 5-6 นัด ก่อนค้นกระเป๋าผู้ตายคว้ากุญแจรถจักรยานยนต์ขับหนีไปอย่างลอยนวล ตนเองจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ติดตามคนร้ายแต่ไม่พบ

 

 

ต่อมา พ.ต.อ.กฤช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดงานสืบสวน สภ.พัฒนานิคม ชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จราจร กระจายกำลังกันค้นหา และตั้งจุดสกัดกดดันผู้ต้องหา จนเวลาประมาณ 10.25 น. ทางตำรวจ สภ.พัฒนานิคม ได้รับโทรศัพท์จากผู้ก่อเหตุว่าจะขอมอบตัวสู้คดี ซึ่งจากการตรวจสอบจากสัญญานโทรศัพท์ พบว่าอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร จึงได้กระจายกำลังออกค้นหา

 

 

จนพบว่า นายอนุสรณ์ มาหลบพักอยู่ที่ โรงแรมแห่งหนึ่งใน  อ.พัฒนานิคม เจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อม ให้มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทษหนักจะได้เป็นเบา ซึ่งมีการเจรจากันอยู่สักครู่ ซึ่งนายอนุสรณ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าตนเองไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทั้งพ่อแม่และครอบครัว ขอตายตามคนรักไป จนทางเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืน จำนวน 1 นัดดังมาจากห้องพัก จึงวางกำลังซึ่งคิดว่าคนร้ายยิงเปิดทาง แต่เมื่อเปิดประตูพบว่านายอนุสรณ์ ใช้อาวุธปืน แบบไทยประดิษฐ์ บรรจุกระสุนขนาด .38 ยิงตัวเองเสียชีวิตอยู่บนที่นอนของโรงแรมโดยอาวุธปืนตกอยู่ที่ปลายเตียง รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาจอดอยู่ในโรงจอดโรงแรม

 

 

 

กฤษณ์ สนใจ ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี