ข่าว

"พระมหาสมปอง" เผยโอวาท "สมเด็จช่วง" ให้รักและสามัคคี ร่วมรักษาพระพุทธศาสนา

"พระมหาสมปอง" เผยโอวาท "สมเด็จช่วง" ให้รักและสามัคคี ร่วมรักษาพระพุทธศาสนา

18 ธ.ค. 2564

"พระมหาสมปอง" เดินสายกราบลาพระผู้ใหญ่ น้อมนำโอวาท "สมเด็จช่วง"  ให้รัก สามัคคี ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา และคำสอน พระพรหมโมลี หลวงพ่อพยอม เดินหน้าสืบสานพระพุทธศาสนา เปรย โชคชะตาอาจนำพาให้กลับมาเป็นสงฆ์

ภายหลังจากที่ "พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต" พระนักบรรยายชื่อดังแห่งวัดสร้อยทองพระอารามหลวง ได้ตัดสินใจลาสิกขา ในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ก็ได้เดินสายพบพระผู้ใหญ่ที่นับถือเพื่อทำการกราบลาก่อน ลาสิกขา

โดยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค ที่ผ่านมา "พระมหาสมปอง" ได้เดินทางไปยังวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เข้าพบพระพรหมโมลี รักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อกราบลาก่อนลาสิกขา โดยได้พูดคุยสอบถามถึงโอวาทของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) ซึ่งพระพรหมโมลีได้กล่าวว่า สมเด็จช่วงมีโอวาทให้ "รักกันนะ สามัคคีกันนะ รักษาพระศาสนาไว้"

\"พระมหาสมปอง\" เผยโอวาท \"สมเด็จช่วง\" ให้รักและสามัคคี ร่วมรักษาพระพุทธศาสนา

"พระมหาสมปอง" เปิดเผยว่า โอวาทของสมเด็จท่าน เป็นที่ประทับใจและจะน้อมนำไปปฏิบัติ เนื่องจากอาตมาก็อยากให้พระ , โยม ,ธรรมยุต, มหานิกาย หรือแม้แต่ในมหานิกายเองให้มีความรักและสามัคคีกันในหมู่คณะสงฆ์รวมไปถึงทุกคนในโลกใบนี้อยากให้อยู่กันด้วยความสามัคคีและสำคัญที่สุดคือรักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้

นอกจากนี้อาตมายังได้สอบถามพระพรหมโมลี ท่านว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็นเจ้าอาวาส หลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสแล้ว พระพรหมโมลี ท่านให้คำตอบว่า "ได้เป็นก็ได้ ไม่ได้เป็นก็ได้ แล้วแต่เลย อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็ทำหน้าที่พระต่อไปในการสอนบาลีสอนธรรมะแก่ญาติโยม"

\"พระมหาสมปอง\" เผยโอวาท \"สมเด็จช่วง\" ให้รักและสามัคคี ร่วมรักษาพระพุทธศาสนา

หลังจากนั้นวันที่ 17 ธ.ค 2564  "พระมหาสมปอง" ได้เดินทางมากราบลาพระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) ที่วัดสวนแก้ว พร้อมปวารณาตน เป็นพุทธบริษัทที่ 3 เชื่อว่าก็ยังทำหน้าที่ พุทธบริษัท ที่3 ได้เพราะงานแรกหลังจากลาสิกขา ก็จะเป็นการบรรยายธรรมข้ามปีหรือสวดมนต์ข้ามปีที่วัดศิมาลัยทรงธรรม ที่ปากช่อง

\"พระมหาสมปอง\" เผยโอวาท \"สมเด็จช่วง\" ให้รักและสามัคคี ร่วมรักษาพระพุทธศาสนา

"พระมหาสมปอง" กล่าวด้วยว่า ได้พูดกับหลวงพ่อท่าน ว่ารู้สึกแปลกที่ผ่านมาอาตมา ชอบช่วยเหลือโรงเรียน ไม่ค่อยเน้นวัดปัจจุบันก็ไม่ค่อยได้ช่วย ไม่ค่อยผูกพันกับวัด ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกพอใกล้ลาสิกขา กลับรู้สึกว่าอยากทำบุญกับวัดมากขึ้น อยากกลับมาวัดมากขึ้น ตอนเป็นพระชอบออกไปทำงานข้างนอก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอยากกลับมาช่วยวัดมากขึ้น ยืนยันว่าทุกผลิตภัณฑ์ในแบรนด์แม่ปอง รายได้ส่วนหนึ่ง 10% จะนำมาทำบุญช่วยวัดโรงเรียนและผู้ยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือช่วยพระเณรมากขึ้นและเชื่อว่าจะมีศักยภาพในการช่วยเหลือมากขึ้น


หลวงพ่อพยอม ท่านได้ให้คำสอนง่ายๆสั้นๆว่า "แลดูดี ออกไปแล้ว ไม่ว่าจะคิด จะพูด หรือทำอะไร ให้แลดูดีคือการทำดี อย่าให้คนดูถูกได้ว่าบวชมาแล้วสึกออกไปแล้วแลดูไม่ดี ให้ทำให้พูดให้คิดอะไรก็แล้วแต่ให้แลดูดี " ก็คือให้ทำความดีนั่นเอง ซึ่งเป็นประโยคสอนที่สั้นและทำง่าย หลวงพ่อท่านไม่ได้รั้งเนื่องจากหลวงพ่อท่านรู้ว่าตัดสินใจมาดีแล้ว พระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ได้ด้วยการบวชไม่สึกแต่อยู่ได้ด้วยการสานต่อพระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ได้ด้วยตัวบุคคล แต่อยู่ได้ด้วยหลักธรรม ด้วยคำสอน อยู่ได้ด้วยระบบ 
\"พระมหาสมปอง\" เผยโอวาท \"สมเด็จช่วง\" ให้รักและสามัคคี ร่วมรักษาพระพุทธศาสนา

"พระมหาสมปอง" กล่าวด้วยว่า หลวงพ่อท่านมีเสียดาย แต่เข้าใจในการตัดสินใจ ยิ่งท่านเห็นชัดว่าเรากำลังจะไปทำอะไรเป็นประโยชน์มากกว่าเดิม และตั้งใจไว้ว่าจะทำให้คนพูดได้ว่าถ้ารู้ว่าสึกแล้วจะทำดีได้ขนาดนี้น่าจะสึกตั้งนานแล้ว จะทำให้เป็นจริงให้ได้

ซึ่งพระพรหมโมลี ท่านก็เสียดายที่อาตมาจะลาสิกขาโดยทางพระพรหมโมลีและหลวงพ่อพยอมพูดในลักษณะคล้ายคลึงกันว่าเสียดายโอกาสในการทำงานทางด้านพระพุทธศาสนาในสถานภาพนี้ คือความเป็นสงฆ์ แต่ไม่เสียใจเพราะเชื่อว่า ลาสิกขาออกไปจะสามารถสร้างประโยชน์ได้ไม่แพ้กัน

เมื่อทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์สอบถาม "พระมหาสมปอง" ว่ามีโอกาสที่จะกลับมาเป็นพระอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ "พระมหาสมปอง" กล่าวว่า ก็ตอบได้ว่ามีเนื่องจากที่ผ่านมาเคย ลาสิกขาแล้วสมัยเป็นเณร ก็รู้สึกว่าไม่คุ้นชินกับสถานภาพการเป็นฆราวาสและการ ลาสิกขา ครั้งนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในสุดท้ายแล้วอาตมาอาจจะกลับมาเป็นหลวงตาแก่ๆที่บรรยายธรรมสนุกๆให้กับเหล่าญาติโยมฟัง ที่จริงแล้วชอบการบรรยายธรรมของ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุที่เคยบรรยายว่า คนเราเกิดหลายภพหลายชาติ ไม่รู้ว่าเกิดมาเป็นอะไรบ้าง ชาติหน้าไม่รู้ว่าจะเกิดมาเป็นอะไร แต่ชาตินี้ขอเป็นพระก็แล้วกัน อาตมาชอบประโยคนี้มาโดยตลอด และยังชอบอยู่ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาและความเหมาะสมและโชคชะตาซึ่งก็หวังว่าเหล่าญาติโยมจะยังคงต้อนรับกันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน

และตั้งใจว่าจะเชิญชวน มหาไพรวัลย์ ให้กลับมาสานต่อพระพุทธศาสนาเนื่องจากที่ผ่านมาเห็นได้ว่า มหาไพรวัลย์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ทำให้วัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่หันหลังให้พระพุทธศาสนากลับเข้ามาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น เมื่อวันที่ มหาไพรวัลย์ตัดสินใจหันหลังออกไปหลายคนเลือกที่จะทิ้งเดินตาม มหาไพรวัลย์ ในฐานะที่อาตมาเป็นพี่หน้าที่พี่คือการพาน้องกลับมาเข้าวัดและเชื่อว่า มหาไพรวัลย์ จะพาให้คนรุ่นใหม่กลับเข้าวัดได้อีกครั้ง