จนท.บุกจับ "แก๊งลักรถ" ข้ามชาติ ขณะลำเลียงขึ้นแพหนีกระเจิงทิ้งรถลงน้ำโขง

18 ธ.ค.2564  พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)  พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. สั่งการให้ พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.12 บก.รน. พ.ต.ท.กรกฏ อินทร์สาลี, พ.ต.ท.ตรีเพชร พิกุล พ.ต.ท.วิเชียร ไชยมงคล รอง ผกก.12 บก.รน. สนธิกำลังน.อ.จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงราย  ร.อ.พนาศักดิ์ พันธุ์พานิช หน.กพ.-กบ.นรข.เขตเชียงราย รักษาการ หน.สน.เรือเชียงแสน นำกำลังออกลาดตระเวนบริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านสบยาบ หมู่ที่ 2 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน หลังพบเบาะแสว่าจะมีการ ลักลอบนำรถยนต์ออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านพิธีด้านศุลการกรเพื่อนำไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เส้นทางดังกล่าว 

เจ้าหน้าที่พบชายฉกรรจ์ประมาณ  9 -10 คน เตรียมนำรถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน ขับหายเข้าไปในดงต้นสัก บ้านสบยาบ ริมแม่น้ำโขง และกำลังขับรถลงบันไดคอนกรีตริมท่าน้ำโขงเพื่อขึ้นเรือ 2 ลำ ที่ต่อเป็นเรือแพจอดเทียบท่าอยู่ริมตลิ่ง เตรียมข้ามไปยังฝั่งประเทศลาว  จึงได้ทำการแสดงตัวเข้าจับกุม แต่คนร้ายทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ก็ต่างฮือกระโดดลงน้ำว่ายหลบหนี ส่วนที่อยู่บนบกวิ่งฝ่าความมืดหนีไปได้อย่างรวดเร็ว และได้ปล่อยสลิงให้รถยนต์ไหลตกลงไปในแม่น้ำโขงจมหายไป ส่วนคนบนเรือรีบตัดเชือกที่ผูกขับเรือหลบหนีไปฝั่งประเทศลาว

จากการเข้าตรวจสอบพบว่ารถยนต์กระบะตกและจมลงไปในแม่น้ำโขง จึงได้ลงทำการค้นหารถยนต์ โดยใช้กำลังหน่วยมนุษย์กบ นรข. ลงดำหารถยนต์เป็นไปด้วยยากลำบาก ซึ่งระดับน้ำบริเวณนั้นลึกประมาณ 4 เมตร ประกอบกับกระแสน้ำเชี่ยว กระทั่งเวลา 13.00 น. ชุดมนุษย์กบ นรข. ก็พบรถที่จมอยู่ในน้ำเป็นรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ห่างจากจุดที่รถจมไปประมาณเกือบ 100 เมตร และพบป้ายทะเบียน กล 5842 จ.อุบลราชธานี ตกอยู่บนฝั่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้วางทุ่นตำแหน่งรถยนต์ที่จมไว้ เพื่อหาทางกู้รถยนต์ขึ้นมาต่อไป 

ด้าน พ.ต.อ.อนรรฆ เปิดเผยว่า ได้บูรณาการกับหน่วยร่วมในพื้นที่ ตรวจสอบกลุ่มผู้ลักลอบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ข้ามประเทศเพื่อนบ้าน ตามแนวชายแดนลำน้ำโขง เน้นช่องทางธรรมชาติในการลักลอบขนรถยนต์ ทั้ง 3 อำเภอ อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการในที่ประชุม เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา และจะดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุต่อไป