ข่าว

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกเหยื่อหลงกลโอนเงินสูญร่วมแสน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เบอร์ 060 อ้างเป็นบริษัทขนส่งพัสดุไปต่างประเทศชื่อดัง และ ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ หลอกเหยื่อจนหลงกลโอนเงินในธนาคารไปตรวจสอบสูญร่วมแสน

17 ธ.ค.2564   ศูนย์บริการประชาชน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.ลูกหยี่ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พนักงานขายบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ระบุว่าช่วงบ่าย วานนี้ (16 ธ.ค.) ได้รับโทรศัพท์หมายเลข 060 xxxxxxx   และอีกหมายเลข อ้างว่าเป็นตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ คาดว่าเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงินในบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตทั้งหมดไปให้ตรวจสอบ โดยอ้างว่าพัวพันกับการฟอกเงิน

 

โดย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์มาแจ้งว่า  โทรมาจากบริษัทบริการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ  DSL มีพัสดุที่ตนส่งไปถูกตีกลับ ขอให้ติดต่อไปที่อีกหมายเลขโทรศัพท์ จึงได้โทรไปตามหมายเลขที่แจ้งมา และปลายสาย บอกว่า เป็น DSL สาขาเชียงใหม่ แจ้งว่าของที่เราส่งไปต่างประเทศ ถูกตีกลับ ซึ่งบริษัทที่ทำงาน จะส่งพัสดุไปต่างประเทศเป็นประจำ จึงไม่เกิดความสงสัย โดยคนนร้ายแจ้งว่า เป็นพัสดุที่ส่ง ประเทศจีน ในกล่องพัสดุมีหนังสือเดินทาง 10 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 15 ใบ เสื้อผ้า 5 ชุด ตนจึงยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ส่งพัสดุดังกล่าว แต่ทางปลายสาย แจ้งกลับมาว่า  อาจจะมีคนแอบอ้างใช้ชื่อเราส่งแทน พร้อมแนะนำว่า ต้องการแจ้งความหรือไม่ จะประสานตำรวจ สภ.เชียงใหม่ให้ จากนั้นได้โอนสายไปที่อีกหมายเลข ที่อ้างว่าเป็นตำรวจเชียงใหม่ 

 

 

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกเหยื่อหลงกลโอนเงินสูญร่วมแสน

 

จากนั้นปลายสายที่อ้างว่าตำรวจ ยศร้อวตำรวจเอก อยู่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้หว่านล้อม จนตนเองเชื่อและเกรงว่าจะเกิดปัญหา จึงยอมแจ้งข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน และโอนเงินให้ไป โดยที่คนร้ายที่อ้างว่าเป็นตำรวจ จะตรวจสอบและโอนกลับมาให้ ภายใน 15 นาที   และยังได้กำชับว่าอย่าบอกเรื่องดังกล่าวกับคนอื่น เพราะจะกลายเป็นเรื่องใหญ่  ซึ่งตนได้โอนไปบัญชีที่คนร้ายให้มาจำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 7.4 หมื่นบาท

 

 

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกเหยื่อหลงกลโอนเงินสูญร่วมแสน

 

 

ในกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่า มีกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ บริษัทขนส่งสินค้า โดยแจ้งว่า บัญชีของท่านหรือพัสดุสิ่งของของท่านที่ส่งไปต่างประเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ก่อการร้าย ฯลฯ มีการข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีในอัตราโทษสูง จะมีการออกหมายจับ ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดี ต้องโอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ มิเช่นนั้น จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็นบริษัทขนส่ง หลอกเหยื่อหลงกลโอนเงินสูญร่วมแสน

 

ซึ่งมีพี่น้องประชาชนได้รับโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งที่มิได้มีส่วนกับการกระทำความผิดตามที่มิจฉาชีพกล่าวอ้าง หรือไม่ ถ้าใช่ก็จะออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีมาสอบ  ถ้าไม่ใช่ก็จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดที่คนร้ายไปถอนเงินออก จะใช้ระยะเวลาในการสอบสวนประมาณ 2-3 เดือน การแจ้งความพนักงานสอบสวนจะต้องไปแจ้งด้วยตัวเอง ไม่มีการรับแจ้งทางโทรศัพท์ โทรศัพท์ที่คนร้ายใช้โทรมาหาเหยื่อจะใช้ voip (VoIP: Voice over Internet Protocol เป็นเทคโนโลยีสำหรับการสื่อสารทางเสียงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือโครงข่ายอื่นๆ ที่ใช้อินเตอร์เน็ต)

 

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า  ธนาคาร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะหากพบว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจตามกฎหมายในการยึด อายัดบัญชีธนาคาร โดยจะเป็นผู้ติดต่อกับทางธนาคารโดยตรง 

 

ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และหากมีผู้ใดอ้างว่าต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์   สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นต่อไป และขอประชาสัมพันธ์พี่น้อง ประชาชนที่ได้รับการติดต่อโดยผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ พนักงานบริษัทขนส่งพัสดุ โทรศัพท์หาพี่น้องประชาชนและใช้พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น ขอให้ตั้งสติ อย่าหลงเชื่อ และสามารถตรวจสอบโดยโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่วยงานดังกล่าวได้โดยตรง และสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานีตำรวจ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อได้ผ่านแอปพลิเคชัน PolicePhoneBook ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านช่องทาง https://apps.apple.com/th/app/policephonebook/id1465554530 (iOS/iPadOS) และ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.zealtech.policephonebook2019 (Android) หรือสามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

logoline