ชายแดนสระแก้ว เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเต็มพิกัด ป้องกันโควิด "โอไมครอน"

วันที่ 16 ธ.ค.64 กรณีพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทางชายแดนจังหวัดสระแก้ว สั่งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเต็มพิกัด นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ทางสาธารณสุขได้มีมาตรการรับมือ ซึ่งเป็นระบบเฝ้าระวังอยู่แล้ว เนื่องจากชายแดนยังไม่ได้เปิด หากเข้ามาตามระบบแบบถูกกฎหมาย จะต้องผ่านระบบเฝ้าระวังทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น คือต้องเข้ากักตัว 14 และผ่านการตรวจแบบ RT-PCR เก็บตัวอย่างเชื้อบริเวณลำคอ และหลังโพรงจมูก จะทราบผลใน 2-3 วัน เนื่องจากต้องมีการวัดผลผ่านห้องปฏิบัติการ ถือเป็นการตรวจที่มีความถูกต้องแม่นยำมากกว่า แต่จะใช้เวลาในการวินิจฉัยตัวอย่างเชื้อนานกว่า

แต่หากเป็นกรณีของการเข้ามาในประเทศโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือลักลอบเข้ามานั้น ซึ่งอยู่ในความดูแลของฝ่ายทหาร กองกำลังบูรพา และฝ่ายปกครอง ซึ่งนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการกำชับให้แนวชายแดนดำเนินการอย่างเข้มงวดเช่นกัน

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ตอนในของ จ.สระแก้ว ตั้งด่านเพื่อตรวจสอบการเดินทางของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองชั้นในของประเทศ

ซึ่ง สภ.เมืองสระแก้ว ได้ตั้งด่านตรวจสอบเส้นทางเข้า-ออกเมืองหลายจุด มุ่งเน้นไปที่รถตู้และรถยนต์บรรทุกแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ตามมาตรการป้องกันการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ด้วยเช่นกัน 

ขณะเดียวกัน พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสูด ได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เพื่อตรวจสอบปัญหาและเส้นทางการลักลอบเข้า-ออก ทั้งคนไทยและกัมพูชาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เนื่องในช่วงที่ผ่านมามีการลักลอบเข้าออกของแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนและกองกำลังบูรพา ให้ร่วมกันสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาย นายกรัฐมนตรี อย่างเคร่งครัด

ภาพ/ข่าว ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวดภูมิภาค จ.สระแก้ว