ข่าว

"4คิงส์ ชัยภูมิ" เหิมหนักบุกบ้านอริ ใช้รองเท้าตบหน้า "ขู่ฆ่า" ถ้าไม่ย้ายหนี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"แก๊ง 4คิงส์" ชัยภูมิ เหิมหนัก ฉุนโดนแจ้งความพากัน ยกพวกบุกบ้านอริ ใช้รองเท้าตบหน้า แถม "ขู่ฆ่า" หากไม่ย้ายบ้านหนี

14  ธ.ค.  2564  จากกรณีที่ ร.ต.อ.นิพนธ์   เพื่อนสงคราม ร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งความจากนายบรรเจิด  อินคำ  อายุ 25 ปี ว่ามีกลุ่มวัยรุ่น  แก๊ง 4คิงส์  แต่งกายด้วยชุดนักศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่าง ขี่รถจักรยานยนต์นับ 10 คัน มาจอดที่หน้าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชัยภูมิ จากนั้นกลุ่มนักศึกษาดังกล่าว พร้อมด้วยอาวุธมีด ไม้ และปืน บุกเข้ามาวิทยาลัยเกษตรกรรมฯ ไล่ทำร้ยร่างกายกลุ่มนักศึกษา และยังได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ยิงใส่นายบรรเจิด อินคำ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรกรรมฯ แต่กระสุนด้าน กลุ่มนักศึกษาดังกล่าวจึงใช้อาวุธมีดดาบฟันที่แขนของ และแผ่นหลังของนายบรรเจิด แต่ฟันไม่เข้า นายบรรเจิด จึงหยิบท่อนเหล็กออกมาป้องกันตัว แต่ครู อาจารย์ในวิทยาลัยฯ เห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้าม ทำให้กลุ่มนักศึกษาที่บุกเข้ามา หรือ  "แก๊ง 4 คิงส์" ต่างวิ่งหลบหนีไป 


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมครู อาจารย์ได้เรียกเด็กนักศึกษาทั้งกลุ่มวิทยาลัยสารพัดช่างและ แก๊ง 4คิงส์ วิทยาลัยเกษตรกรรมฯ มาเจราสงบศึก ด้วยการทำเอ็มโอยูยุติศึกดังกล่าวที่ สภ.เมืองชัยภูมิ กลับพบว่ามีนักศึกษากลุ่มผู้เสียหายจำนวน 3 คนและกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างชัยภูมิเดินทางมาทำเอ็มโอยู ตกลงยุติศึกกันเพียง 2 คน ส่วนเพื่อนที่รวมก่อเหตุอีกนับ10 กลับไม่มาพบพนักงานสอบสวน  เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา

 

 

"4คิงส์ ชัยภูมิ" เหิมหนักบุกบ้านอริ ใช้รองเท้าตบหน้า "ขู่ฆ่า" ถ้าไม่ย้ายหนี

 

ต่อมา เวลา 22.30 น.ของวันที่ 13 ธ.ค.2564  ขณะที่นายบรรเจิด กำลังนั่งทานข้าวอยู่กับภรรยา ลูกวัยขวบเศษ และ น้องชาย อยู่ภายในบ้านพัก  มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนนับ 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาในหมู่บ้านเอื้ออาทร สาขาบ้านโนนสมอ ต.ในเมืองชัยภูมิ แล้วขับมามาจอดที่หน้าบ้านบ้านพัก ก่อนที่จะเรียกน้องชาย ซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรกรรมฯ และนายบรรเจิด  ให้ออกมาเคลียร์ปัญหากรณีที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นวิทยาลัยสารพัดช่าง แก๊ง 4 คิงส์

 

แต่นายบรรเจิดไม่ยอมออกมาจากบ้านพัก พร้อมทั้งให้ภรรยา อุ้มลูกวัยขวบเศษ หลบอยู่ในบ้านพัก และกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้บุกเข้ามาในบ้านพักจำนวน 4 คน ก่อนที่จะเดินตรงเข้ามาใช้มือกำคอเสื้อแล้วตบเข้าที่ใบหน้า 4 ครั้ง และวัยรุ่นอีกคนไม่ทราบชื่อได้เดินตรงเข้าไปหานายเอ น้องชายนายบรรเจิด   แล้วใช้รองเท้าเตะตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งพร้อมขู่อาฆาตเอาชีวิตหากยังอยากมีชีวิตอยู่ให้ย้ายบ้านหนีออกจากตัวเมืองชัยภูมิไปเสีย

 

"4คิงส์ ชัยภูมิ" เหิมหนักบุกบ้านอริ ใช้รองเท้าตบหน้า "ขู่ฆ่า" ถ้าไม่ย้ายหนี

 

 

ต่อมาชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงพากันออกมาดูและเข้าระงับเหตุ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่มาก่อเหตุต่างพากันวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ ขับหลบหนีออกจากหมู่บ้านไป

 

หลังจากนั้นนายบรรเจิด พร้อมด้วยนายเอ น้องชาย  เข้าแจ้งความต่อ ร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่บุกรุกเข้ามาทำร้ายร่างกายตนและน้องชายถึงในบ้านพัก ในข้อหาทำร้ายร่างกายและบุกรุกเคหะสถานในยามวิการ แต่เรื่องกลับเงียบหายไปและมาทราบว่าเจ้าหน้าที่กลับไม่ยังดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวแต่อย่างใดจึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อนำเสนอเรื่องราวและเรียกร้องให้ดำเนินคดีต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ