ข่าว

วิเคราะห์ 11 ตัวจริง   " ทีมชาติไทย" ปิดจ๊อบฟิลิปปินส์เข้ารอบ ซูซูกิคัพ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทีมชาติไทย" ลุยต่อเกมที่ 3 ในฟุตบอลเอเอฟเอฟซูซูกิคัพ ที่สิงคโปร์ โดยจะพบกับทีมชาติฟิลิปปินส์ ไทยกุมความได้เปรียบจาก 2 นัด ที่มี 6 คะแนน ในขณะที่ฟิลิปปินส์ มี 3 คะแนน " ช้างศึก" มีเป้าหมายเดียว คือ 3 คะแนน เพื่อย้ำการเข้ารอบ ต่างไปจากฟิลิปปินส ที่มีเป้าหมายเดียวต้องชนะ

เกมที่ 2  ของฟุตบอลทีมชาติไทย     ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน   : เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2020   ที่สิงคโปร์ ด้วยการได้ชัยชนะเหนือ  ทีมชาติเมียนมา 4-0 ทำให้  "ทีมชาติไทย" ได้เปรียบคู่แข่งนัดในเกมนัดถัดมา  ( นัดที่ 3  อังคารที่ 14 ) ซึ่ง " ช้างศึก"  มีคิวพบกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์    เพราะไทยมี 6 คะแนนจาก 2 นัด

 

ขณะที่ฟิลิปปินส์มี 3 คะแนน จากการลงแข่ง 2 นัด เท่ากับว่านัดนี้เป็นนัดชะตาของฟิลิปปินส์หากแพ้ "ทีมชาติไทย"  แล้ว สิงคโปร์ เจ้าภาพชนะหรือเสมอ ติมอร์ เลสเต พวกเขา( ฟิลิปปินส) จะตกรอบทันที ซึ่งดูแล้วสิงคโปร์ชนะติมอร์เลสเตได้ไม่ยากแน่นอน เพราะฉะนั้นฟิลิปปินส์ ไม่มีทางเลือกต้องชนะทีมชาติไทย เพียงอย่างเดียวเพื่อไปวัดนัดสุดท้ายที่จะเจอกับเมียนมา 

 

ขณะที่สถานการณ์ทีมชาติไทย ถือว่าไม่กดดันมากนัก   การคว้าชัยชนะเก็บ 3 แต้ม ในนัดนี้ ถือเป็นเป็นการปิดจ๊อบรอบแบ่งกลุ่ม การันตีการเข้ารอบรองชนะเลิศ แล้วไปดวลกับสิงคโปร์ในการเป็นแชมป์กลุ่มในนัดสุดท้าย อีกนัยยะนึงถ้าหากเกมนี้ไทยสามารถผ่านเข้ารอบได้แล้ว ในวันที่พบกับสิงคโปร์ นักเตะที่ยังไม่ได้ลงสัมผัสเกมเลย จะมีโอกาสได้ลงเล่นรับใช้ชาติ


ดังนั้นเกมวันนี้  เป็นเกมที่สำคัญสำหรับ มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย และเหล่าบรรดา"ช้างศึก" คาดว่าในเกมนี้  "โค้ชมาโน่" ขนนักเตะชุดใหญ่ลงเต็มสูบแน่นอน เพื่อหวังปิดบัญชีการเข้ารอบ แบบไม่ต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย รวมถึงการเล่นแบบทัวร์นาเมนต์ การโรเตชั่นหมุนเวียนนักเตะมีความสำคัญเพื่อรักษาความสดไปลุยในรอบรองชนะเลิศ ที่ต้องเจอทั้ง เวียดนาม , มาเลเซีย และ อินโดนิเซีย ทีมใดทีมหนึ่ง ถือเป็นของแข็งทั้งสิ้น

ในการจัดตัวผู้เล่น 11  ตัวจริง      คาดว่าว่า"โค้ชมาโน่" คงจะไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นมากนัก อาจยึดชุดตัวจริงที่เจอกับเมียนมาเป็นหลัก เพราะทุกอย่างดูลงตัว ทั้งตำแหน่งของนักเตะ รูปแบบการเข้าทำ แต่อาจมีการปรับนักเตะในบางตำแหน่ง ที่โชว์ฟอร์มการเล่นไม่เข้าตาในเกมกับเมียนมา ในแผนการเล่น 4-3-1-2

 

เริ่มจากผู้รักษาประตู   "บอยเออร์" ฉัตรชัย บุตรพรม น่าจะได้รับโอกาสลงเป็นมือหนึ่งอย่างต่อเนื่อง แม้ในเกมกับเมียนมา จะมีลูกเหวอ ( จังหวะผิดพลาด) ให้เห็น แต่ฟอร์มการเซฟยังคงไว้ใจได้ และ มาโน่ ชอบผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดี        คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แน่นอนแล้วว่ามีภาพการซ้อมที่  โค้ชมาโน่  ยืนคุยกับแนวรับ 4 คน ในเกมกับเมียนมา คาดว่าจะยังคงใช้มานูเอล ทอม เบียรห์ และ กฤษดา กาแมน จับคู่กันตามเดิม

 

เพราะไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน แต่อาจต้องกำชับ ทอม เบียรห์ เรื่องของสมาธิและการรับมือกับความเร็วของนักเตะฟิลิปปินส์ให้มากขึ้น ส่วนแบ็คทั้ง 2 ข้าง ยังคงใช้   "หมวดต้น"  นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ประจำการแบ็คขวาตามเดิม และแบ็คซ้าย  "โก๋อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ตามสูตร ซึ่งดูแล้วเป็นแผงแบ็คโฟร์ ที่ลงตัวที่สุดในทีมชุดนี้


ส่วนแผงกลาง 3 คน โค้ชมาโน่   น่าจะยึด 3 ตัวหลักที่ลงเล่นด้วยกันในนัดที่แล้ว พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล , สารัช อยู่เย็น และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ลงเล่นร่วมกัน โดยมี พิธิวัต เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ พร้อมกับวาง สารัช  เป็นตัวเชื่อมเกม และดัน  ธนวัฒน์ ขึ้นสูงไปเล่นร่วมกับชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมชาติไทยที่จะได้ลงมารับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุก ในการสร้างสรรค์เกมรุกเข้าโจมตีคู่แข่ง

  คู่กองหน้าแน่นอนว่าคนที่ยืนพื้นแน่นอนแล้วคือ "เทพมุ้ย"  ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะรับบทบาทเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าปักหลักในกรอบเขตโทษเป็นหลัก ส่วนคู่ขาที่จะมาเป็นกองหน้าตัวฟรี ทายใจว่า "โค้ชมาโน่ " อาจมีการสับเปลี่ยนเอา  สุภโชค สารชาติ ลงมาแทน ศุภชัย ใจเด็ด ที่นัดแรกโชว์ฟอร์มไม่ดีซักเท่าไหร่ 

 

คาดการณ์ว่าในเกมนี้ทีมชาติไทยน่าจะครองเกมได้เหนือกว่าฟิลิปปินส์ แต่ก็ไม่สามารถประมาทฟิลิปปินส์ชุดนี้ได้ เนื่องจากมีนักเตะลูกครึ่งหลายคนที่เล่นอยู่ใน รีโว่ ไทยลีก ที่พอจะรู้ทางนักเตะทีมชาติไทยชุดนี้พอสมควร  รวมถึงตัวผู้เล่นอื่นๆในทีมมีทีเด็ดอยู่หลายคน  
  

วิเคราะห์ 11 ตัวจริง   " ทีมชาติไทย" ปิดจ๊อบฟิลิปปินส์เข้ารอบ  ซูซูกิคัพ  วิเคราะห์ 11 ตัวจริง   " ทีมชาติไทย" ปิดจ๊อบฟิลิปปินส์เข้ารอบ  ซูซูกิคัพ  วิเคราะห์ 11 ตัวจริง   " ทีมชาติไทย" ปิดจ๊อบฟิลิปปินส์เข้ารอบ  ซูซูกิคัพ  วิเคราะห์ 11 ตัวจริง   " ทีมชาติไทย" ปิดจ๊อบฟิลิปปินส์เข้ารอบ  ซูซูกิคัพ  ฟุตบอลทีมชาติไทย จ่าฝูงของกลุ่ม มีโปรแกรมลงเล่นฟุตบอล เอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2020  ในเกมนัดที่ 3  ด้วยการพบกับทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่มีคะแนนเป็นอันดับ 3  ของสาย   โดยการแข่งขัน จะมีขึ้นในเย็นวันอังคารนี้   ( 14  ธันวาคม )  16.30 น. ตามเวลาไทย

 

ขอขอบคุณภาพ จาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ