ข่าว

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สมาชิกวุฒิสภา “สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คณะรัฐมนตรี ศาลยุติธรรม คณะกรรมการ ป.ป.ช. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และ ประชาชนร่วมคัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุเรื่องข้อเสนอการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการบริหารจัดการและข้อกฎหมาย ที่ทำให้เกิดการลดหย่อนโทษในคดีคอร์รัปชันที่มีปัญหาและสังคมตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะคดีทุจริตสำคัญร้ายแรงทุจริตจำนำข้าว โดยระบุว่า
จดหมายเปิดผนึก กราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี  
ศาลยุติธรรม คณะกรรมการ ป.ป.ช. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และ 
พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักความเป็นธรรม

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

 

เรื่องข้อเสนอการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการบริหารจัดการและข้อกฎหมาย ที่ทำให้เกิดการลดหย่อนโทษในคดีคอร์รัปชันที่มีปัญหาและสังคมตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะคดีทุจริตสำคัญร้ายแรงทุจริตจำนำข้าว

แบ่งแนวทางการแก้ไขเป็น 3 ระยะดังนี้
@แนวทางเร่งด่วน
นายกรัฐมนตรีควรสั่งให้ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ
ที่สังคมให้ความเชื่อถือ โดยอย่างน้อยต้องมีผู้แทน จากกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม กรรมการอัยการ กรรมการ ป.ป.ช.  องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ผู้แทนสื่อมวลชน ฯลฯ  ร่วมดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ระหว่างนี้ให้ชะลอการบังคับใช้การลดหย่อนโทษดังกล่าวออกไประยะหนึ่งก่อน โดยกรรมการควรมีหน้าที่ตรวจสอบอย่างน้อยดังนี้

 

1)ตรวจสอบกฎกติกาและกระบวนการเลื่อนชั้นนักโทษที่มีรายชื่อเข้าเกณฑ์ลดโทษในคดีร้ายแรงสำคัญเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับคดีนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ร้ายแรง คดีฆ่าคนตายที่มีโทษประหารชีวิต คดีฆ่าข่มขืนที่เป็นภัยสังคมร้ายแรง คดีค้ามนุษย์ ฯลฯ ที่เดิมมีนโยบายไม่ลดโทษแบบคดีทั่วไป

เพราะคดีทุจริตโกงจำนำข้าวเป็นคดีพิเศษร้ายแรงสำคัญ  
ไม่ควรอยู่ในเกณฑ์ลดโทษเช่นคดีปกติทั่วไป 

 

2)เร่งตรวจสอบกระบวนการภายในของกรมราชทัณฑ์ 
ในการใช้ดุลยพินิจทุกขั้นตอนของผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้บัญชาการเรือนจำ อธิบดี และคณะกรรมการราชทัณฑ์ ในการพิจารณาเลื่อนชั้นนักโทษเด็ดขาดเป็นชั้นดี ชั้นเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ว่ามีเหตุต้องสงสัยหรือไม่
ที่อาจมุ่งให้เฉพาะนักโทษเด็ดขาดบางคน มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิพิเศษต่อเนื่อง เพื่อรอเวลาพระราชทานอภัยโทษตามห้วงเวลาสำคัญประจำปี โดยอ้างว่าทำถูกกฎหมายและระเบียบหรือไม่

 

3)ถ้าพบปัญหาจากข้อ1) และข้อ2) เป็นรายบุคคลให้นำเสนอแนวทางแก้ไขเฉพาะรายหรือเฉพาะคดี หากเป็นปัญหาข้อกฎหมายให้เสนอแก้ไขกฎหมายหรือกฎกระทรวงหรือระเบียบ

 

4)ให้แก้ไขนำหลักเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2559 กลับมาใช้เป็นเกณฑ์ 
 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

@แนวทางระยะกลาง

1)ครม./ ส.ส. /ประชาชน ยื่นเสนอแก้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ 2560 มาตรา 52 และมาตราที่เกี่ยวข้อง
ให้เพิ่มระยะเวลาปลอดภัยแก่สังคม 15-20 ปี เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้มีโทษหนักประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือมีโทษจำคุกในคดีสำคัญพิเศษร้ายแรง ได้แก่ คดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ คดีฆาตกรฆ่าข่มขืน คดีทุจริตสำคัญร้ายแรง ฯลฯ ต้องได้รับโทษขังในเรือนจำขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 15-20 ปี หรืออย่างน้อย 1 ใน 3 หรือกึ่งหนึ่งของโทษโดยจะไม่มีการพิจารณาลดโทษ พักโทษ หรือปล่อยตัวก่อนกำหนด
เพื่อให้สังคมมั่นใจว่า สังคมจะปลอดภัยจากผู้กระทำผิดร้ายแรง
ที่เป็นภัยสังคมจะยังอยู่ในเรือนจำ ในระยะเวลาอย่างน้อย 15- 20 ปี 
หรืออย่างน้อย 1 ใน 3 หรือกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลมีคำพิพากษา

 

2)ให้ศาลเข้ามาเป็นผู้พิจารณาและสั่งการลดโทษหรือพักโทษหรือปล่อยนักโทษก่อนกำหนด โดยเฉพาะคดีความผิดภัยสังคมร้ายแรง
ที่มีโทษประหารชีวิต โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยให้กรมราชทัณฑ์ ทำเรื่องขอไปยังศาลให้พิจารณา และเป็นการช่วยคัดกรองการรับโทษอย่างเหมาะสมพอเพียง การปรับปรุงตัว ก่อนที่กรมราชทัณฑ์จะทำเรื่องนำนักโทษคดีสำคัญเหล่านั้น เข้ากระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษ 
ส่วนความผิดต่ำกว่านั้นให้คณะกรรมการราชทัณฑ์ดำเนินการตามกฎหมายเองได้ต่อไป

 

3)ควรแก้ไขกฎกระทรวงและระเบียบราชทัณฑ์นักโทษคดีสำคัญ
ที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ได้แก่นักโทษประหารชีวิต นักโทษจำคุกตลอดชีวิต นักโทษจำคุก 20-50 ปีขึ้นไป นักโทษคดีทุจริตร้ายแรง หรือนักโทษที่เป็นภัยสังคม เช่น ฆ่า ข่มขืน หรือพวกใช้ความรุนแรง ก่อนที่นักโทษเหล่านี้จะได้รับลดโทษการปล่อยตัวจำเป็นต้องมีการประเมินความพร้อม และต้องจัดให้มีหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่เข้าประเมินร่วมด้วย

 

@แนวทางระยะยาว 
1)แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 เพื่อให้ผู้ต้องทำที่กระทำผิดร้ายแรงหลายกระทงต่างกรรมต่างวาระ เพื่อให้ศาลได้พิพากษาให้นักโทษได้รับการลงโทษจริงมากกว่ามีข้อห้ามจำคุกไว้ไม่เกิน 50 ปี ตามที่มีข้อจำกัดเดิม

 

2)เร่งแก้ไขปัญหาคนล้นคุกอย่างจริงจัง ควบคู่มาตรการอื่น ๆ อย่างจริงจัง อาทิ มาตรการค่าปรับแทนจำคุก การบริการทางทางสังคม การบำบัดยาเสพติด การเข้ารับการบำบัดพฤติกรรม การให้คำปรึกษาทางการเงินสำหรับผู้มีหนี้สิน การติดแท็กอิเล็กทรอนิกส์ติดตามความเคลื่อนไหว ฯลฯ และการให้ประกันตัวผู้ต้องหาแทนการคุมขังระหว่างสู้คดี  

 

3)ควรพิจารณาอนุญาตให้มีโครงการเรือนจำเอกชน และโครงการจัดแยกสถานที่กักขังผู้ต้องหาที่ศาลไม่อนุญาตประกันตัว ออกจากเรือนจำปกติ

 

@ ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา 
กฎหมายประเทศในยุโรปและหลายประเทศสากล เช่น 
ฝรั่งเศสได้กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 132 - 23(6) 
กำหนดว่า คดีที่ศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ศาลจะต้องกำหนดมาตรการปลอดภัยให้สังคมคือการห้ามลดโทษ พักโทษหรือปล่อยตัวก่อน 18 ปี และหากศาลเห็นว่า เป็นผู้กระทำผิด ศาลสามารถกำหนดระยะเวลาปลอดภัยให้สังคมได้ 18-22 ปี ดังนั้นนักโทษร้ายแรงที่ถูกศาลจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษหนัก50ปี จะต้องถูกคุมขังในเรือนจำแน่นอนอย่างน้อย 18-22 ปี โดยไม่รับการปล่อยตัวก่อนกำหนด
และเมื่อครบกำหนด 18-22 ปี ในระยะปลอดภัยของสังคมที่ศาลกำหนดแล้ว ศาลจะเป็นผู้ประเมินการปล่อยตัวเป็นราย ๆ พร้อมกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัว หรืออาจยังให้ยังขังต่อไปในเรือนจำจนกว่าจะครบกำหนดโทษตามคำพิพากษาหรือมีการเสนอให้ศาลประเมินใหม่

 

กระบวนการลดโทษ ปล่อยตัวของไทยเป็นระบบปิด โดยฝ่ายบริหารของกรมราชทัณฑ์  และคณะกรรมการราชทัณฑ์ โดยศาลไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องใด ทั้ง ๆ ที่กระบวนการยุติธรรมของไทยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นสืบสวนสอบสวนในชั้นตำรวจ ป.ป.ช. จนถึงชั้นอัยการในการส่งฟ้อง
และมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาพิจารณาคดีนานอย่างหนักทั้งผู้ฟ้องคดี อัยการ โจทก์หรือจำเลย บางคดีต่อสู้กันถึง 3 ชั้นศาล
แต่พอชั้นพักโทษ ลดโทษ หรือปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาด ให้คนออกจากคุก กลับไม่มีกระบวนการให้ยุติธรรมแบบเดียวกัน 

 

จึงสมควรแก้กฎหมายให้ศาลเป็นผู้พิจารณาพักการลดโทษหรือปล่อยตัวนักโทษคดีสำคัญร้ายแรง คดีอุกฉกรรจ์ ที่ส่งผลร้ายต่อสังคม
ก่อนที่คณะกรรมการราชทัณฑ์ จะนำเข้าสู่กระบวนลดโทษ พักโทษหรือขอพระราชทานอภัยโทษ ครับ

 

จึงเรียนเสนอมาเพื่อช่วยกันพิจารณาแก้ไขหาทางออกคืนความเป็นธรรมและความยุติธรรมให้กับชาติบ้านเมืองและสังคมไทยครับ

สมชาย แสวงการ
สมาชิกวุฒิสภา
ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน
สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

12 ธค 2564
#ร่วมคัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย 

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย

 

“สมชาย แสวงการ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ คัดค้านนิรโทษกรรมจำนำข้าวสุดซอย


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ