ข่าว

เปิดคลิป "สาวแสบ" ทำทีซื้อของก่อนฉวยจังหวะยาย 74 เผลอ "ฉกเงิน" ไปเกือบหมื่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดคลิป "สาวแสบ" ทำทีซื้อของ ก่อนฉวยจังหวะ ยายวัย 74 อยู่คนเดียว "ฉกเงิน" ในกระเป๋าไปเกือบหมื่น ก่อนอ้างขอไปถอยรถมาหน้าร้าน สุดท้ายหายไปไร้ร่องรอย

12 ธ.ค.2564   หญิงชราวัย  74 ปี เจ้าของร้านขายอาหารและผลไม้ ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า วันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ถูกคนร้ายในแสร้งเป็นลูกค้า เข้ามาขอซื้อสินค้าภายในร้าน ก่อนหลอกล่อให้ยายเผลอวางกระเป๋าเงินไว้ใกล้กับคนร้ายโดยไม่ทันระวังตัว จากนั้น สาวแสบ ในคราบโจร ก็ฉกเงินจากกระเป๋าไป  สูญเงินไปเกือบหมื่นบาท ก่อนทำทีไปอยรถ แล้วหนีหายเข้ากลีบเมฆ 

โดยผู้เสียหายรายนี้ คือ นางกอบกุล ใยอ้น อายุ 74 ปี แม่ค้าขายอาหารและผลไม้  อยู่ภายในซอยรามคำแหง 160 ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ  โดยยายกอบกุล เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ   ขณะเตรียมจัดเรียงสินค้าเพื่อเปิดร้านในตอนเช้าตามปกติ โดยมีเพียงเธอคนเดียวที่อยู่หน้าร้าน ส่วนญาติๆ กำลังวุ่นเตรียมอาหารอยู่ด้านหลัง  จู่ ๆ ก็มี คนร้ายเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40 - 50 ปี  เดินเข้ามาในร้ายขอซื้อผลไม้ โดยสั่งซื้อกล้วย 1 หวี และขนมไทย รวมเป็นเงิน 20 บาท แต่กลับให้ธนบัตรใบละ 500 บาท หลังจากที่ยายกอบกุลรับเงิน จึงเดินไปหยิบกระเป๋าเงินเพื่อหยิบเงินทอนให้ 

 

เปิดคลิป "สาวแสบ" ทำทีซื้อของก่อนฉวยจังหวะยาย 74 เผลอ "ฉกเงิน" ไปเกือบหมื่น

 

จังหวะนั้นเอง คนร้ายเกิดเปลี่ยนใจ และบอกว่ามีแบงก์ร้อย แล้ว ขอเปลี่ยนเป็นแบงก์ร้อยแทน  นอกจากนี้ ไม่เท่านั้น ยังทำทีเป็นคุยโทรศัพท์อ้างปลายสายเป็นแม่ มีการสอบถามว่าจะซื้อกล้วยเล็บมือนางเพิ่ม อีก 12 หวี, ส้มโชกุนอีก 2 กิโลกรัม และห่อหมก อีก 100 บาท ทำให้ยายกอบกุลรู้สึกรู้สึกดีใจ เนื่องจาก เพิ่งเปิดร้านแต่กลับมีลูกค้ามาสั่งของเยอะขนาดนี้ จึงเผลอวางกระเป๋าเงินไว้ที่โซฟา  และไปนั่งเลือกกล้วยให้โดยไม่ทันได้ระวัง ว่าคนร้ายที่แอบมานั่งใกล้กระเป๋าใส่เงิน และล้วงเข้าไปฉกเงินออกจากกระเป๋าไป รวมเป็นเงิน 9,700 บาท  

 

เปิดคลิป "สาวแสบ" ทำทีซื้อของก่อนฉวยจังหวะยาย 74 เผลอ "ฉกเงิน" ไปเกือบหมื่น

 

 

 

เปิดคลิป "สาวแสบ" ทำทีซื้อของก่อนฉวยจังหวะยาย 74 เผลอ "ฉกเงิน" ไปเกือบหมื่น

 

หลังจากที่คนร้ายได้เงินสดไปแล้ว ก็ออกอุบายโดยอ้างว่า ถือของไปที่รถไม่ไหว ขอไปเลื่อนรถมาที่หน้าร้านเพื่อจะได้ยกของใส่รถได้สะดวก  ซึ่งยายกอบกุล ก็ไม่ได้เอะใจ แต่หลังจากรอเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไม่พบว่าจะมีรถยนต์คันใดเข้ามาจอดหน้าร้าน กระทั่ง ลูกค้าอีกรายเข้ามาขอแลกเงิน  ยายกอบกุล จึงเดินไปที่กระเป๋าอีกครั้ง ก็พบว่าเงินภายในกระเป๋านั้นหายไปหมดแล้ว จึงเพิ่งนึกได้ว่า ลูกค้าคนแรกที่เข้ามาต้องเป็นคนร้ายอย่างแน่นอน จึงต้องกขอวอนให้คนร้ายเห็นใจคนทำมาหากิน เพราะการสูญเงินในครั้งนี้ ทำให้เดือดร้อนมาก

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ