ข่าว

ย้อนคดี"เปรมชัย"ฆ่าเสือดำ ก่อนศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปี 14 เดือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เป็นเวลานานกว่า 4 ปี ที่สังคมจับตามองคดีของ "นายเปรมชัย กรรณสูต" นักธุรกิจระดับมหาเศรษฐี ในคดี"ฆ่าเสือดำ" ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กระทั่ง"ศาลฎีกา"ตัดสินจำคุก 2 ปี 14 เดือน รายละเอียดทั้งหมด ทีมข่าว"คมชัดลึกออนไลน์" เรียบเรียงไว้ให้ข้างต้นดังนี้

เจ้าหน้าที่จับกุม"นายเปรมชัย กรรณสูต"พร้อมพวกรวม 4 คน

ปฐมบทเรื่องราวดังกล่าว เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2561 นายวิเชียร ชินวงศ์ หรือ "หัวหน้าวิเชียร" หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี นำกำลังเข้าตรวจจุดตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้าม พบ "นายเปรมชัย กรรณสูต" ประธานบริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทยฯ พร้อมพวกรวม 4 คน พร้อมพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ "ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง" จึงได้ทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนรวม 3 กระบอก และเครื่องกระสุนอีกมาก นอกจากนี้ยังพบ"ซากเสือดำ" ถูกชำแหละ ถลกหนัง จึงทำการจับกุมทั้ง 4 ราย เพื่อส่งคดีไปที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

 

คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก ภาพของ"เจ้าสัวเปรมชัย"ในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น นั่งอยู่หน้าแคมป์ที่พัก ถูกส่งต่อเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ พร้อมกระแสสังคมที่ตั้งคำถามกับคดีนี้ว่า เมื่อผู้ต้องหาเป็นบุคคลระดับบิ๊ก จะเชื่อมือ"กระบวนการยุติธรรม"ได้มากน้อยเพียงใด และคนผิดจะได้รับโทษอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ก้มโค้งรับไหว้ "เจ้าสัวเปรมชัย"

คำถามนี้ยิ่งเด่นชัดขึ้นไปอีก เมื่อมีภาพ "พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ณ เวลานั้น ที่ออกอาการนอบน้อมโค้งรับไหว้ "เจ้าสัวเปรมชัย" ในห้องสอบสวน จนถูกแชร์ต่อว่อนโลกออนไลน์ ตอกย้ำคำครหาของสังคมที่ว่า "คุกมีไว้สำหรับคนจน" ใช่หรือไม่?
 

วิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงของสังคม กระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินต่อไป สปอตไลท์ในคดีนี้ฉายไปยัง "หัวหน้าเชียร" วิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ที่เป็นกำลังสำคัญในการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดคณะของ"เจ้าสัวเปรมชัย"มาตั้งแต่ต้น นอกจากจะคดีล่าสัตว์แล้ว ยังต่อสู้ในคดีการ"ติดสินบนเจ้าพนักงาน"อีกด้วย

 

คดีเริ่มต้นกระบวนการไต่สวนในชั้นศาล โดย"เจ้าสัวเปรมชัย"ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ ระบุในวันเกิดเหตุ ตนไปถึงเย็นวันเสาร์และได้ไปนอนพัก ตื่นเช้ามาก็เข้าไปทุ่งใหญ่ฯ จนมาถูกจับในเย็นวันเดียวกัน พร้อมโดนกักขัง 2 วัน 2 คืน ไม่สามารถติดต่อใครได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์ หลังจากออกมาก็เจอกับนักข่าวเป็นร้อย 

ซากเสือดำ ซึ่งพบภายในที่เกิดเหตุ

คดีผ่านไปนานกว่า 1 ปี ในที่สุด เดือนมีนาคม 2562 ศาลชั้นต้นก็มีคำพิพากษา จำคุก"เจ้าสัวเปรมชัย" เป็นเวลา 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา แต่ยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บของป่า และข้อหาร่วมกันมี"ซากสัตว์เสือดำ" ก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นหลักทรัพย์ 4 แสนบาท ขอประกันตัวไปสู้คดี

"เจ้าสัวเปรมชัย"ขณะถูกควบคุมตัวมาสอบสวน

ระหว่างที่คดีล่าสัตว์ยังดำเนินไป "เจ้าสัวเปรมชัย"ก็เจอคดีเล็กคดีน้อยอีกหลากหลายคดี กระทั่งเวลาผ่านพ้นมาถึงเดือนธันวาคม ปี 2562 ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่ง เพิ่มโทษเป็นจำคุกเป็น 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา โดยให้เพิ่มข้อหาฐาน"ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าครอบครอง" คือ "เสือดำ" ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

"เจ้าสัวเปรมชัย"มาฟังคำตัดสินศาลฎีกา

และล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 ธันวาคม 2564 หรือเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีก็มาถึงที่สุด หลัง"ศาลฎีกา"มีคำพิพากษายืน ตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ตัดสินจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้"กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช" จำนวน 2 ล้านบาท

 

ถือเป็นการปิดฉากคดี"เจ้าสัวเปรมชัย"อย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนกระบวนการยุติธรรมให้เห็นว่า "คุกไม่ได้มีไว้ขังคนจนเท่านั้น"

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ