เดอะอ๋อย "จาตุรนต์ ฉายแสง"ชี้ ไม่เหลืออะไรให้ฉลองในวันรัฐธรรมนูญ
อดีตประธานยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ "จาตุรนต์ ฉายแสง"โพสต์ วันรัฐธรรมนูญกับความหมายที่สูญหายไป ไม่เหลืออะไรให้ฉลองในวันรัฐธรรมนูญมานานเต็มทีแล้ว ชี้ ต้องช่วยกันหาทางทำให้เจตนารมณ์ที่ต้องการให้อำนาจเป็นของราษฎรนั้นกลับคืนมา และปรากฎเป็นจริงขึ้นให้จงได้
"นายจาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก มีใจความว่า วันรัฐธรรมนูญกับความหมายที่สูญหายไป(นานแล้ว)
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ ๆ มีการฉลองรัฐธรรมนูญกันอย่างยิ่งใหญ่เพราะการมีรัฐธรรมนูญก็คือการเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของราษฎร
รัฐธรรมนูญของไทยเคยเป็นกฎหมายสูงสุด ที่กำหนดให้คนทุกคนเท่าเทียมกันและให้อำนาจเป็นของประชาชน มีการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตยที่ตรวจสอบถ่วงดุลกัน ทั้งยังคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญในอารยประเทศ
แต่รัฐธรรมนูญก็ถูกฉีกครั้งแล้วครั้งเล่าและบ้านเมืองก็ถูกปกครองโดยไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นเวลานาน ๆ
การเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญเคยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่มาแล้ว
ยุคสมัยที่ไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นสิบ ๆ ปีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ใคร ๆ ก็บอกว่าประเทศต้องมีรัฐธรรมนูญการเรียกร้องต่อสู้เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป
แต่ต่อมาความหมายของรัฐธรรมนูญก็เปลี่ยนไป
การที่ระบบยุติธรรมของประเทศไทยได้รับรองผู้ทำรัฐประหารสำเร็จว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์และถือปฏิบัติสืบมา ทำให้รัฐธรรมนูญไม่ใช่กฎหมายสูงสุดของประเทศมานานแล้ว คำสั่งของคณะรัฐประหารต่างหากที่เป็นกฎหมายสูงสุด
เนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนไปทำให้บทบาทหน้าที่ของรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงไปจนถึงขั้นที่รัฐธรรมนูญกลายเป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการที่มีไว้เพื่อเป็นหลักประกันว่าอำนาจจะต้องไม่เป็นของประชาชน แต่เป็นขององค์กรต่างๆที่ไม่เชื่อมโยงกับประชาชนแต่อย่างใดทั้งสิ้น
การรัฐประหารครั้งล่าสุดทำให้รัฐธรรมนูญแทนที่จะมีกลไกพิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย กลับกลายเป็นเครื่องมือที่รับรองการรัฐประหารและคำสั่งของคณะรัฐประหารทั้งหมด
ศาลรัฐธรรมนูญอันเป็นกลไกที่พึ่งปกป้องรัฐธรรมนูญก็กลับถูกผนวกเข้ากับระบอบเผด็จการอย่างเป็นเนื้อเดียวกันไปเสีย คือศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ถูกยุบเลิกไปโดยคณะรัฐประหาร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ลาออก แต่ก็ไม่ยับยั้งการรัฐประหารและกลับรับรองการรัฐประหารเสียด้วย
ในปีที่ผ่านมา ระบบกลไกของรัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่เพียงแต่ปิดโอกาสในการที่สังคมไทยจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ยังวางหลักเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยให้สังคมถอยหลังไปสู่ระบอบการปกครองในสมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีรัฐธรรมนูญ ซ้ำยังทำให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ที่กำหนดให้การใช้เสรีภาพเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญโดยกระบวนการที่เป็นสันติวิธีกลายเป็นการล้มล้างการปกครองไปเสียด้วย
ไม่เหลืออะไรให้ฉลองในวันรัฐธรรมนูญมานานเต็มทีแล้วหากจะระลึกถึงวันรัฐธรรมนูญกันในปีนี้ คงต้องนึกถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการทำให้มีรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นมาและช่วยกันหาทางทำให้เจตนารมณ์ที่ต้องการให้อำนาจเป็นของราษฎรนั้นกลับคืนมาและปรากฎเป็นจริงขึ้นให้จงได้