หนุ่มเจ้าของร้านอุปกรณ์เดินป่า และ คอมพิวเตอร์ พร้อมด้วย "ทนายรัชพล" นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความ เอาผิดกับตร.ชุดสืบฯ จ.ชลบุรี เข้าค้นร้านแล้วทรัพย์สินสูญหายกว่า 8.7 หมื่น พร้อมเหล้าอีก 2 ขวด
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พร้อมด้วย นายสิทธิวัชร์ จิรเจริญยิ่งสุข อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี เจ้าของร้านขายอุปกรณ์เดินป่า และ อุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ ตั้งอยู่ย่านวัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความต่อร้อยเวร สภ.คูคต หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.ชลบุรี เข้าตรวจค้นร้าน และมีทรัพย์สินหายไป รวมมูลค่า 87,000 บาท
โดยเหตุการณดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 11 พ.ย.2564 เวลาประมาณ 16.00 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์ แสดงตัวว่า เป็นตำรวจชุดสืบสวน จังหวัดชลบุรี เข้าขอค้นร้าน โดยแจ้งกับพนักงานว่า ต้องสงสัยว่าจะมีความเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ โดยได้ยึดโทรศัพท์มือถือของพนักงานในร้านทั้งหมดไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวขชุดดังกล่าว ได้ขึ้นไปที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และได้ถอดกล้องวงจรปิด ส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ และคุมตัวพนักงานในร้านไปที่ สภ.คูคต และได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา โดยไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด
ต่อมา ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น ได้นำเหล้าติดไปด้วย 2 ขวด นอกจากนี้แล้วยังอุปกรณ์ประเภท สายชาร์จคอมพิวเตอร์ สายชาร์จโทรศัพท์มือถือ หายไปจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 87,000บาท นายสิทธิวัชร์ เจ้าของร้าน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เข้าปรึกษากับทนายรัชพล และเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นร้านดังกล่าว
ด้านทนายรัชพล เปิดเผยกับ "คมชัดลึก ออนไลน์" ว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นร้านดังกล่าว คาดว่าสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตำรวจได้เข้าจับกุมเว็บพนันออนไลน์ ในพื้นที่ ชลบุรี และมีการสืบสวนขยายผลมาตรวจค้นที่ร้านของผู้เสียหายเนื่องจากคาดว่าจะมีความเชื่อมโยง ซึ่งนายสิทธิวัชร์ เจ้าของร้าน ให้ข้อมูลว่า เคยได้รับการว่าจ้างให้ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันแต่อย่างใด ในส่วนของการนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความนั้นได้แจ้งทั้งหมด 3 ข้อหา คือ มาตรา 157 ซึ่งความผิดซึ่งหน้า ผู้เสียหายไม่มีความผิด , ข้อหาลักทรัพย์ และ ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว
ซึ่งล่าสุด พนักงานสอบสวนได้เรียกพนักงานในร้านสอบปากคำเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ติดตามเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เข้าตรวจค้นมาสอบปากคำต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง