ข่าว

ล่อซื้อยาสาวก่อนนำตัวกักขังเรียกค่าไถ่1.5แสน

ล่อซื้อยาสาวก่อนนำตัวกักขังเรียกค่าไถ่1.5แสน

24 ก.พ. 2553

อส.กำแพงแสนร่วมกับชุดจับกุมยาเสพติดล่อซื้อยาบ้าสาวใหญ่วัย 32 ก่อนนำตัวมากักขัง โทรหาแม่เหยื่อให้นำเงิน 1.5 แสนบาท มาไถ่ตัว แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ขณะที่แม่เหยื่อสาวหวั่นลูกไม่ปลอดภัยโร่แจ้งความ ตำรวจวางแผนซ้อนรวบได้คารถยนต์ ก่อนบุกช่วยเหลือเหยื่อ พร้อ

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.ธีรไนย ศิริรุ่งพาณิชย์ พนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ปรีดา อิ่มเจริญ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ว่า ได้จับกุมนายพิษณุ บัวตูม อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่ อส.กำแพงแสน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 4 ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์เรียกค่าไถ่  น.ส.รัชนี แก้วจีน อาชีพรับจ้าง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 11 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จำนวนเงิน 1.5 แสนบาท เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนหน้าตลาดคุณาวรรณ หมู่ 7 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อเรียกค่าไถ่ 1 เครื่อง อาวุธปืนแมกกาซีน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 13 นัด กล้องถ่ายรูป 1 ตัว วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง และรถยนต์กระบะอีซูซุ สีทอง ทะเบียน บล-2767 นครปฐม

 พ.ต.ท.ปรีดากล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางบุญสาลี หนูแก้ว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 11 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจว่า  กลุ่มผู้ต้องหาที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอำเภอกำแพงแสนโทรศัพท์เรียกเงินจำนวน   1.5 แสนบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว น.ส.รัชนี  บุตรสาวที่ถูกจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาบ้า 2 เม็ด  และถูกควบคุมตัวไว้ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดงหลังที่ว่าการอำเภอกำแพงแสน   ภายหลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังไปจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา โดยวางแผนให้นางบุญสาลี นำเงินสดจำนวน 1.5 แสนบาท ไปให้กับผู้ต้องหาบริเวณวัดอ้อน้อย ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน 

 "กระทั่งถึงเวลานัดหมาย ผม และนางบุญสาลี ได้ขับรถมาบริเวณหน้าตลาดนัดคุณาวรรณ จากนั้นจึงให้นางบุญสาลีโทรศัพท์ติดต่อไปยังคนร้ายที่เรียกค่าไถ่ ระหว่างนั้นผู้ต้องหานั่งอยู่ในรถยนต์บริเวณริมถนนใกล้กัน   จึงได้ประสานให้ชุดสืบสวนเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ขณะโทรศัพท์ภายในรถ ซึ่งผู้ต้องหาพยายามชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ายึดอาวุธปืนและจับกุมไว้ได้" พ.ต.ท.ปรีดากล่าว

 พ.ต.ท.ปรีดากล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคือ  นายพิษณุ   เจ้าหน้าที่ อส.กำแพงแสน เบื้องต้นรับสารภาพว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้คุมตัว น.ส.รัชนีไว้ที่กองร้อย อส.  โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมดควบคุมตัวอยู่  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายพิษณุพาไปยังกองร้อย อส.พบว่า  กลุ่มผู้ต้องหาได้ย้าย น.ส.รัชนีออกจากสถานที่ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว เหลือเพียงรถจักรยานยนต์ของ น.ส.รัชนีจอดทิ้งไว้บริเวณหน้ากองร้อยดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายพิษณุโทรศัพท์ติดต่อไปยังชุดจับกุม เพื่อนำตัว น.ส.รัชนี มาส่งที่กองร้อย อส. จากนั้นไม่นานชุดจับกุมได้พา น.ส.รัชนีมาส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายพิษณุกับพวกส่งพนักงานสอบสวน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์

 น.ส.รัชนีเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีฟ้า ทะเบียน วขม-309 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านมุ่งหน้าไปทางตลาดกำแพงแสน เมื่อถึงหน้าวัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทั้งนี้ระหว่างทางได้ถูกรถกระบะอีซูซุ สีทอง ทะเบียน 2767 นครปฐม ขับตามมาอย่างกระชั้นชิด ด้วยความตกใจ ทำให้รถเสียหลักล้มบนถนน  จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ อส.กำแพงแสนได้ลงมาอุ้มตัวขึ้นรถกระบะ  จากนั้นได้นำตัวมาที่กองร้อย อส.กำแพงแสน ก่อนจะให้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ซึ่งพบว่าฉี่เป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวจึงกักขังไว้ ก่อนจะบังคับให้ติดต่อญาติ เพื่อนำเงินมาไถ่ตัว

 "ตอนนั้นได้บอกเบอร์โทรศัพท์ของมารดา เพื่อให้เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวติดต่อนำเงินมาไถ่ตัว แต่ระว่างที่คุยกัน มารดายังไม่มีเงิน  ทำให้ดิฉันต้องถูกคุมตัวไว้ที่กองร้อย อส.ตลอดทั้งคืน" น.ส.รัชนีกล่าว

 นางบุญสาลีกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากกลุ่มผู้ต้องหาให้นำเงินไปไถ่ตัวบุตรสาวจำนวน 1.5 แสนบาท จึงได้ขอเวลาเพื่อหาเงินโดยได้นำรถยนต์ไปจำนำได้เงินมาจำนวน 1.4 แสนบาท แต่เงินไม่ครบตามจำนวนที่เรียกร้อง จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเกรงว่าบุตรสาวจะไม่ได้รับความปลอดภัย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันวางแผนจนสามารถช่วยบุตรสาวออกมาได้

 นายพิษณุสารภาพว่า  ก่อนหน้านี้ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีก 4 คนของอำเภอกำแพงแสน ร่วมกันล่อซื้อยาบ้าจาก น.ส.รัชนี   2 เม็ด ในราคาเม็ดละ 200 บาท โดยนัดส่งยาบ้าที่ตลาดนัดกำแพงแสน ทั้งนี้หลังจาก น.ส.รัชนี มาตามนัดหมาย จึงเข้าจับกุม และนำตัวมาควบคุมไว้ที่กองร้อย อส.กำแพงแสน ต่อมาทางหัวหน้าชุดได้พูดคุยกันว่า จะต้องทำการขยายผลการจับกุมรายนี้ไปต่ออีก 200 เม็ด ซึ่งจะต้องหาเงินมาล่อซื้อ  จึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังนางบุญสาลี มารดาของ น.ส.รัชนีให้นำเงินมาไถ่ตัว1.5 แสนบาท เพื่อจะนำเงินก้อนนี้มาทำงานล่อซื้อในครั้งต่อไป  เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงขับรถออกไปตามนัด โดยมี อส.ชุดจับกุมทั้งหมดควบคุมตัว น.ส.รัชนีเพื่อไม่ให้หลบหนี กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม

 นายนอบ คงพูน นายอำเภอกำแพงแสน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรง  ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมสอบสวน อส. และชุดจับกุมกลุ่มดังกล่าวเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมทำรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบต่อไป