ข่าว

The Disruptor เมืองไทย "สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" ชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯ กทม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

#จะทำก็ทำได้ คือ ประโยคสร้างแรงบันดาลใจของ "ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" เจ้าของฉายา The Disruptor เมืองไทย ที่ถึงตอนนี้ได้ลาออกจากอธิการบดี สจล. ท่ามกลางกระแสข่าวเตรียมลงชิงเก้าอี้ตัวใหญ่ ผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์

ในการประชุมสภาสถาบันฯวาระพิเศษวันนี้ ( 9 ธ.ค. )มีมติอนุมัติให้" ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์"ลาออกจากตำแหน่ง อธิการบดีตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมท่ามกลางกระแสข่าวเตรียมลงชิงเก้าอี้ตัวใหญ่ผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์

 

"ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์" เจ้าของฉายา The Disruptor เมืองไทย ( Disruptor คือ คนที่มองเห็นโอกาส ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง และก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ)พิสูจน์ผลการมุ่งมั่นลงมือทำอย่างเต็มที่จากความฝันวัยเยาว์คือการเข้าเรียนด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม University of Wisconsin-Madison,USAและวิศวกรรมอุโมงค์ที่ ม.ชื่อดังของโลก MIT Massachusetts Institute of technology, USA และกลับมาเป็นศาสตราจารย์ด้านอุโมงค์ สร้างผลงานความรู้เกี่ยวกับงานด้านนี้โดยตรงคือการร่วมทีมสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน และออกแบบอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงนำหลักวิศวกรรม มุ่งมั่นแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพ ด้วยแนวคิดโมเดลแก้มลิง สร้างพื้นที่เก็บน้ำขนาดเล็ก ใหญ่ ทั่วกรุง

 

ระหว่างการศึกษาระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย MIT นั้น "ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" ได้ฉายแววความเป็นนักบริหาร และนักการจัดการจนได้รับทุนเพื่อเข้าร่วมทำงานกับ ธนาคารโลก (World Bank) โครงการเศรษฐกิจของเอเชีย และเคยทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาเศรฐกิจโลกาภิวัฒน์ (Globalization Economy) แห่งสถาบัน MIT Industrial Performance Center (USA) อีกทั้งยังได้ช่วยเหลืองานของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ในการเป็นผู้ก่อตั้งและประธานยุววิศวกรแห่งประเทศไทย

 

 

จากการอุทิศตนในการวิจัยองค์ความรู้และพัฒนาวิชาการเทคโนโลยีก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์เพื่อยกระดับระบบสาธารณูปโภค การบริหารจัดการน้ำ และคมนาคมโลจิสติกส์ของไทยที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน"ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์" ได้คิดค้นทฤษฎีการคำนวณขุดเจาะอุโมงค์ที่ก้าวหน้าด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยซึ่งได้รับการอ้างอิงและนำไปใช้ประโยชน์มากเป็นอันดับ 5 ของโลก

 

และยังได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทยดีเด่นเข็มทองคำที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย รวมถึงได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลกที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ไอเซนฮาวร์ เฟลโลว์ชิพ ประจำปี 2012 (Eisenhower Fellowships)ในฐานะผู้นำยุคใหม่ด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีจากมูลนิธิประธานาธิบดี ดไวท์ ไอเซนฮาวร์ แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เข้ารับรางวัลจาก พลเอก คอลลิน พาวเวลล์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐในสมัยนั้น

"ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์"  ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชา วิศวกรรมโยธา สังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2553 เป็นศาสตราจารย์ ทางด้านการก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์ คนแรกของประเทศไทย เมื่ออายุเพียง 37 ปี 

 

ด้านวิชาชีพ "ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์" ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ประธานการเคหะแห่งชาติ กรรมการและโฆษกกรรมการ รฟท.(2 วาระ) กรรมการบริษัทเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ กรรมการการไฟฟ้านครหลวง ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย นายกสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ AHAISL คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์(วสท.)และนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สมัยที่ 7) 

 

จากประสบการณ์ระดับโลก และความคิดต่างสร้างการเปลี่ยนแปลง "ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์" ปรับระบบการทำงานในมหาวิทยาลัย พลิกวิกฤตเป็นโอกาส  จนสำเร็จทันทีเมื่อรับตำแหน่งอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบังในปี พ.ศ. 2558 และสร้างคณะและหลักสูตรใหม่ที่ทันสมัย สร้างนักนวัตกรรม วิศวกรรมชีวการแพทย์ แพทย์นวัตกร  เปิดคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ นานาชาติ

 

เปิดวิทยาลัยการบิน นานาชาติ สร้างความร่วมมือ ดึงสุดยอดสถาบันการศึกษาระดับโลกมาร่วมกับพระจอมเกล้าลาดกระบังได้แก่ มหาวิทยาลัยสุดยอดด้านคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ Carnegie Melon University , สถาบันวิศวกรรมระดับประเทศของญี่ปุ่น KOSEN และ 42 Bangkok จากต้นแบบ Ecole 42 สุดยอดโรงเรียนด้านAI และ Coding ของโลกที่ทุกคนเรียนฟรี ไม่มีครู   ตลอดจนการสร้างโรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้าลาดกระบัง โรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์นวัตกรรมแห่งแรกของไทย และเตรียมเปิดอนุบาลนานาชาติ เน้นการเรียนมุ่งทักษะ Digital Skills สร้างมหาวิทยาลัยเด็กเล็ก สร้างเด็กไทยให้เก่งไม่แพ้ใครในโลก

 

และในช่วงวิกฤตโควิด19 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 "ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์" ได้ระดมพลังทีมอาจารย์ นักวิชาการ แพทย์นวัตกร ระดมทุนสร้างนวัตกรรมการแพทย์ สู้โควิด19 ได้แก่ เครื่องช่วยหายใจ mini ventilator เครื่องจ่ายอ๊อกซิเจน KMITL High Flow ตู้ตรวจเชื้อความดันบวกและลบ รวมถึงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง และระดมทุนสร้างโรงพยาบาลนวัตกรรมการแพทย์ครบวงจรของไทย โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร” มุ่งยกระดับศักยภาพทางการแพทย์ และการสาธารณสุขของไทย ด้วยแนวคิด “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยรอด” โดยได้ดำเนินการตอกเสาเข็ม เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ปี พ.ศ.2564 เรียบร้อยแล้ว

 

พิสูจน์แนวคิดของเขา #จะทำก็ทำได้
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ