
อนามัยโพลระบุ 47 % คนไทยกลัวการระบาดของ "โอไมครอน" และการเปิดเมือง
กรมอนามัยเปิดเผยข้อมูลอนามัยโพลคนไทย 47 % กลัวโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" กังวลต่อการเมืองมากที่สุด 10.5 % ประชาชนการ์ดตก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวระหว่างการแถลง ประเด็นโควิด-19 กับ PM 2.5 ว่า กรมอนามัย ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และความกังวลต่อสถานการณ์ระบาด และพฤติกรรมป้องกันโรคประชาชนในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยผลจากการสำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ มีความกังวลมาก เกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่ "โอไมครอน"
- 47 % กังวลต่อความเปิดบ้านเปิดเมืองและการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดการระบาด
- 10.5 % ประชาชนการ์ดตก เช่น สวมหน้ากากอนามัยไว้ใต้คาง ไม่เว้นระยะห่าง ไม่ล้างมือ
ขณะที่ การสำรวจพฤติกรรมการป้องกันโรคของประชาชนช่วงเดือนพฤศจิกายน
- 94.4 % มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในที่สาธารณะ
- 91.5 % ล้างมือหลังสัมผัสสิ่งสกปรก
- 86.2 % เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล สภาพอากาศเริ่มเย็นลง โดยสิ่งที่ตามมาคือปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ขณะนี้มี 5 พื้นที่ที่มี ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรปราการ พิจิตร และพิษณุโลก โดยมีการจัดทำผลสำรวจอนามัยโพลต่อความวิตกกังวลต่อฝุ่น PM 2.5 ว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ พบว่า 79.7% มีความกังวล 23% ไม่กังวล
สำหรับเหตุผลที่กังวลพบว่า 65.34% กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็กในระยะยาว
- 59.82 % ทำให้โรคประจําตัวมีอาการรุนแรงมากขึ้น
- 36.2 % ทำให้โควิด-19 ระบาดมากขึ้น
- 30.67 % ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น
- 21.17 % ไม่รู้วิธีป้องกันอันตรายจากฝุ่น