"สายเปย์สะอื้น" สาวเสริมสวย หลอกเชิด3ล้าน สุดท้ายต้องขี่ซาเล้ง ขายของเก่า

เรื่องราวของหนุ่มใหญ่ วัย 60 ปี "สายเปย์สะอื้น" ที่ถูกหญิงสาวอาชีพเสริมสวย หลอกจนหมดตัวในครั้งนี้ กำลังกลายเป็นที่วิพากวิจารณ์ และได้รับความสนใจจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องเตือนสติให้กับบรรดาหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ ที่คิดจะเลี้ยงดูปูเสื่อสาวๆ  

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสันต์ทัศ ทองอบอุ่น อายุ 60 ปี บ้านอยู่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น ในฐานะผู้เสียหาย "สายเปย์สะอื้น" เปิดเผยว่า หลังจากจากถูกหญิงสาว ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยหลอกเอาทรัพย์สิน ก็ได้นำหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งความเอาไว้ พร้อมแนะนำให้หาหลักฐาน เพื่อร้องศูนย์คุมครองสิทธิ์และเสรีภาพประชาชนจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยฟ้องแพ่ง ในการเรียกเอาทรัพย์สินคืนไว้เลี้ยงชีพในวัยชราอีกด้วย  
 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ได้ไปรู้จักกับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย กระทั่งได้มีการคบหากัน แต่ไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะใช้อุบายหลอกเอาทรัพย์สินไปจนหมด เริ่มแรกหญิงสาวรายนี้ ได้หลอกให้ออกรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียนสระแก้ว ซึ่งใช้ชื่อตนเองเป็นเจ้าของ แต่แล้วก็นำรถคันดังกล่าวไปจำนำ ในราคา 500,000 บาท รวมทั้งยังได้หลอกเอาเงินไปอีกด้วย 

นายสันต์ทัศ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น หญิงสาวรายนี้ ยังได้หลอกให้นำรถไถนา ยี่ห้อคูโบต้า ทะเบียน ตม-946 สระแก้ว ไปจำนำอีกในราคา 100,000 บาท และยังไม่พอ ตนเองยังถูกหลอกให้นำรถกระบะ ยี่ห้ออีชูชุ 4 ประตู หมายทะเบียน กค-3149 สระแก้ว ไปจำนำกับนายทุนอีก  เป็นจำนวนเงิน 106,000 บาท ล่าสุด ก็ได้นำรถเก๋งยี่ห้อ มาสด้า50 โปรสีแดง ทะเบียน บบ-2429 สระแก้ว และยังให้ขายที่ดินอีกจำนวน 1 แปลง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น เกือบ 3 ล้านบาท

ตนเองเสียใจมาก เพราะทุ่มเทให้กับผู้หญิงคนนี้มากมาย พอหมดตัว ก็ไม่อยากอยู่กับตน ก็ไม่ว่าอะไร ขณะนี้รู้สึกเข็ดกับชีวิต จากนี้ไปจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน แต่อยากจะขอเงินบางส่วนคืนเท่านั้น เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกวันนี้ถือว่าลำบากมาก เพราะต้องขี่รถซาเล้งขายเสื้อผ้า ขายรองเท้ามือสอง เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงชีวิตไปวัน ๆ

"ผมเข็ดแล้วจริง ๆ และในวันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหนี้ ที่หญิงสาวรายนี้ได้ก่อไว้ ซึ่งผมก็บอกเค้าไปว่า ไม่มีทรัพย์สินอะไรเหลือแล้ว และเรื่องนี้ฝ่ายหญิงที่เป็นต้นเรื่องก็ทราบดี แต่ก็ไม่ยอมช่วยเหลืออะไร แถมยังตีจากผมไปมีคนใหม่ ทิ้งให้ผมต้องรับกรรม รับภาระหนี้สิน อยู่คนเดียว" นายสันต์ทัศ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายสันต์ทัศ ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพื่อขอให้ช่วยดูแลในเรื่องนี้ เพื่อขอเรียกทรัพย์สินคืนบางส่วนให้กับตัวเอง เพราะที่ผ่านมาถูกหลอกให้ซื้อรถเก๋ง และหลอกเอาเงินสดไปจนหมดตัว "สายเปย์สะอื้น"