ป้าร้อง "ยธ." หลานชายตกเป็น "แพะรับบาป" คดีฆ่าคนตายถูกสั่งจำคุก 20 ปี

7 ธ.ค.2564 ที่ ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นางสุปราณี สุขสร้อย อายุ 58 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร เดินทางมายื่นคำร้อง ขอความเป็นธรรม ช่วยเหลือรื้อฟื้นคดีที่หลานชายวัย 26 ปี  ตกเป็นแพะในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 20 ปี 12 เดือน 

นางสุปราณี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564 นายไตรภพ หรือ มอส หลานชาย วัย 26 ปี ลาพักประจำการค่ายทหาร ในจังหวัดสกลนคร เพื่อกลับบ้านมาสอบ กศน. ที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร จากนั้นช่วงบ่ายก็ได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนอีก 3 คน เที่ยวเขื่อนน้ำอูนและดูหมอลำ กระทั่งประมาณเที่ยงคืนจึงขับนั่งรถยนต์เดินทางกลับบ้าน โดยระหว่างทางเพื่อนของหลานชายแวะหาคนรู้จักชื่อ นายบอย ที่บ้านเช่าซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้านและนั่งคุยกันบริเวณด้านหลังบ้าน

ต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาหลายคันและมีเสียงตะโกนท้าทายกับกลุ่มทางบ้านเช่าที่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน พร้อมถือไม้จะวิ่งเข้ามาทำร้าย โดยกลุ่มเพื่อนหลานชายจึงเดินไปดูพบว่า นายเอ และ นายบี (นามสมมุติ) คนที่เช่าบ้านบริเวณนั้น ได้ถือปืนมาคนละกระบอกยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นรถจักรยานยนต์ จนมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บนอนอยู่กลางถนน ก่อนกลุ่มเพื่อนหลานชายช่วยกันรีบนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนยิง 2 คนก็หลบหนีไป จากนั้น หลานชายกลับเข้าค่ายทหารตามปกติ 

ต่อมาวันที่ 24 มี.ค.61 ตำรวจ สภ.วาริชภูมิ ขอค้นบ้านเพื่อหาหลักฐานบอกว่าหลานชายเป็นผู้ต้องสงสัยว่ายิงคนตาย อ้างว่ามีพยานเห็นเหตุการณ์ ตนจึงโทรศัพท์สอบถามหลานชายที่ค่ายทหารแต่เขาปฏิเสธไม่ได้ยิง และเป็นผู้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลด้วย กระทั่งวันที่ 29 มี.ค.61 ตำรวจเข้าไปจับหลานชายในค่ายทหาร ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ทั้งนี้ ตนมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่ชั้นสอบสวนและน่าจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมกับหลานชายตำรวจก็ตามจับกุมมาทั้งหมด 4 ราย 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันที่ 27 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาตัดสินยื่นตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 20 ปี 12 เดือน ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆ ถูกยกฟ้องทั้งหมด แต่หลานชายที่พาคนเจ็บไปหาหมอกลับถูกโดนจับ ทำให้วันนี้มากระทรวงยุติธรรมขอความช่วยเหลือเพื่อช่วยรื้อฟื้นคดีของหลานชายที่ตกเป็นแพะ 

นอกจากนี้ แม่ของหลานชายก็ตรอมใจตายด้วยโรคมะเร็งเพราะเครียด ต้องหาเงินมาสู้คดีจนไม่มีเวลาไปหาหมอ ซึ่งศาลอุทธรณ์ตัดสินคดีเมื่อวันที่ 19 ก.พ.2563 และแม่ของหลานชายก็เสียชีวิตวันที่ 3 มี.ค.2563 ถือว่าเป็นความสูญเสียของครอบครัว แถมก่อนตายยังฝากบอกว่าต้องช่วยหลานชายให้ถึงที่สุด