ข่าว

ตำรวจดอยสะเก็ดพิลึก อ้างฉีดยาโควิด ปล่อย "ดองคดี" ยี่ปั๊วโกงหวย นาน2เดือน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวเชียงใหม่ ร้องขอความเป็นธรรม โวยถูก "ดองคดี" หลังแจ้งจับยี่ปั๊วจอมแสบ โกงสลากกินแบ่งรัฐบาลกว่าแสนบาท แต่คดีผ่านมา 2 เดือนไม่คืบ ทั้งที่ศาลออกหมายจับ ตำรวจอ้างติดยามวิกาล แถมติดฉีดยาต้านโควิด

(7ธ.ค.) ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาวพิมพ์ชนก สุวรรณธัช อายุ 33 ปี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน พร้อมนำหมายจับ และเอกสารหลักฐานมาประกอบการร้องเรียน หลังถูกโกงซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกว่าหนึ่งแสนบาท แต่คดีไม่มีความคืบหน้า "ดองคดี" ทั้งที่ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ แต่ยังลอยนวล

 

ตำรวจดอยสะเก็ดพิลึก อ้างฉีดยาโควิด ปล่อย "ดองคดี" ยี่ปั๊วโกงหวย นาน2เดือน

 

นางสาวพิมพ์ชนก สุวรรณธัช กล่าวว่า ช่วงต้นเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา ได้มีคนรู้จักแนะนำให้รู้จัก บุคคลที่อ้างว่าเป็นยี่ปั๊ว หรือเจ้าของโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ที่เปิดขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาถูก ดังนั้น จึงได้ทักแชทผ่านทางเฟซบุ๊กไปสอบถามรายละเอียด โดยชายคนดังกล่าวทราบชื่อต่อมาคือ นายสิทธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี  "ดองคดี"  

 

 

ทั้งนี้ ระหว่างการพูดคุย นายสิทธิพงษ์ อ้างว่า บิดาได้โควต้าสลากและจะขายให้ในราคาถูก ในราคากล่องละ 40,000 บาท โดย 1 กล่องมี จำนวน 5 เล่ม หรือ คิดเป็นใบละ 80 บาท ด้วยความสนใจจึงขอซื้อไป 1 กล่อง ประจำงวดวันที่ 16 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากโอนเงินให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้มีการติดต่อขอรับสลากและได้ของตามที่ได้ตกลงกันไว้

 

ต่อมานายสิทธิพงษ์ ได้โทรศัพท์ และส่งข้อความมาอีกว่า มีสลากในราคาถูกสำหรับงวดวันที่ 1 และ 16 ตุลาคม ในราคากล่องละ 35,000 บาท แต่จะต้องโอนเงินสั่งซื้อล่วงหน้าทั้งสองงวด ด้วยความเชื่อใจ เพราะงวดแรกซื้อขายไม่มีปัญหา ประกอบกับมาทราบภายหลังว่า เป็นญาติห่าง ๆ กับแฟนหนุ่มด้วย จึงได้ตัดสินใจโอนเงินสั่งซื้องวดวันที่ 1 ตุลาคม จำนวน 1 กล่อง ในราคากล่องละ 35,000 บาท และ งวดวันที่ 16 ตุลาคม จำนวน 2 กล่อง โดยกล่องแรกราคา 35,000 บาท และกล่องที่สอง ราคา 37,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 107,000 บาท
 

อย่างไรก็ตาม เมื่อโอนเงินไปวันที่ 18 กันยายน แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาก่อนสลากออกทั้งสองงวดกลับไม่ได้รับสลาก ตามที่ตกลงกันไว้ โดยนายสิทธิพงษ์ อ้างว่าไม่ได้รับสลากมาอีกทอดหนึ่ง หลังจากนั้นก็บ่ายเบี่ยงและติดต่อไม่ได้ในที่สุด เมื่อไปสอบถามบิดาของนายสิทธิพงษ์ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการครู ก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น  

 

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวด้วยว่า หลังจากนายสิทธิพงษ์ หลบหน้าไป จึงตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.ดอยสะเก็ด เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียก เข้ามาให้ปากคำ แต่คู่กรณีไม่ยอมไปพบตำรวจ และบอกว่าจะขอรอหมายศาล ต่อมาพนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง แต่ก็ยังไม่ยอมเข้าพบกับทางพนักงาสอบสวนอีก จนในที่สุดศาลแขวงเชียงใหม่ จึงได้อนุมัติหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา

 

โดยนายสิทธิพงษ์ ไม่เพียงแต่หลบหน้า ไม่รับผิดชอบเท่านั้น แต่เมื่อไปทวงถามจากภรรยาของนายสิทธิพงษ์ กับได้รับคำตอบว่า นายสิทธิพงษ์ ไปทำงานที่กรุงเทพ และมาทราบภายหลังด้วยว่า นายสิทธิพงษ์ ไปพูดกับญาติที่เป็นคนรู้จักในลักษณะข่มขู่ โดยบอกว่า ได้มีการโทรสั่งให้สถานีตำรวจห้ามตามจับนายสิทธิพงษ์ และให้มาตกลงไกล่เกลี่ยกัน แทนการขึ้นโรงพัก ทั้งที่ตัวนายสิทธิพงษ์ ได้ถูกออกหมายจับแล้ว 

 

ต่อมาได้พบเห็นนายสิทธิพงษ์ ที่บ้านพัก จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด ถึงสองครั้ง ครั้งแรกตำรวจบอกว่าจับไม่ได้ เพราะเป็นยามวิกาล และครั้งที่สองตำรวจบอกว่า ไปฉีดวัคซีนต้านโควิด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรมอีกช่องทางหนึ่ง "ดองคดี

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ