ข่าว

ปณิธานเปิดกฎบัตรไอซีเจยันทักษิณฟ้องศาลโลกไม่ได้

ปณิธานเปิดกฎบัตรไอซีเจยันทักษิณฟ้องศาลโลกไม่ได้

23 ก.พ. 2553

“ปณิธาน” เปิด “กฎบัตรไอซีเจ” ยัน “ทักษิณ” ฟ้องศาลโลกไม่ได้ ขู่กลับ ระวังจะโดนเอง มีคนไปฟ้องอุ้ม-ฆ่า 3 จว.ใต้ สมัยเป็นนายกฯ จับตา 4 วันอันตราย 25-28 ก.พ. ม็อบปลุกคนต้านยึดทรัพย์ เปิดช่องสื่อทุกแขนง แจงคำพิพากษา มั่นใจพร้อมรับมือทุกทางไม่ว่าจะมาไม้ไหน ส่งค

(23ก.พ.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำรายละเอียดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice :ICJ) ฉบับภาษาอังกฤษที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากถูกยึดทรัพย์จะไปฟ้องร้องมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน พร้อมทั้งยืนยัน เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ICJ เพราะกรณีนี้ไม่เข้าเข้าเงื่อนไขที่ไอซีเจ กำหนดไว้ในธรรมนูญมาตรา 34 และ 36 โดยมาตรา 34 ระบุว่า “ต้องเป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐเท่านั้นที่จะนำคดีเข้าสู่ศาลได้ และรัฐที่เป็นคู่กรณีต้องยินยอมด้วย แม้แต่องค์กรระหว่างประเทศก็ไม่สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลได้” ดังนั้นคดีพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดำเนินการโดยกฎหมายภายในประเทศ ไม่ใช่เรื่องระหว่างรัฐ จึงทำไม่ได้

 นายปณิธาน กล่าว ขณะที่มาตรา 36 ระบุว่า เรื่องที่จะเข้าสู่ศาลได้ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 4 ประการ คือ 1.การตีความสนธิสัญญาระหว่างประเทศ 2.คำถามที่เกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ 3.เรื่องการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และ 4.เรื่องการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศว่ามีลักษณะในการละเมิดอย่างไร แบบไหน ดังนั้นตามข้อกำหนดดังกล่าวเห็นได้ว่าไม่สามารถเสนอเรื่องเข้าสู่ศาลได้ทั้ง 2 ศาล ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างกรณีของประเทศมาเลเซียที่เคยทำได้นั้นก็เพราะมาเลเซียเป็นภาคีสมาชิก แต่ไทยยังไม่ได้เป็นภาคีสมาชิก ส่วนหากจะนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ (International criminal court :ICC) เพราะไทยไม่ได้เป็นภาคี เพียงแค่ลงนามแต่ยังไม่ลงสัตยาบัน

 “ถ้าหากในอนาคตไทยลงสัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีของ ICC ก็อาจจะมีผู้ไปฟ้องร้องพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีเองในเรื่องการใช้ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมไปถึงคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ” โฆษกรัฐบาล กล่าว

 ทั้งนี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุแบบนี้เป็นเพราะเขาจะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย นอกจากจะตัดสินว่าหลุดคดีหมดทุกอย่าง แต่ข้อเท็จจริงก็ยังเหลืออีกหลายคดี ดังนั้นจึงหาช่องทางใช้กระบวนการยุติธรรมช่องทางอื่น แต่การจะไปอาศัยเวทีโลกนั้นทำไม่ได้เพราะรัฐไทยจะสงวนสิทธิอธิปไตยของเราไว้

 นายปณิธาน กล่าวถึงแผนการรับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงการตัดสินคดียึดทรัพย์ ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมการรับมือไว้ทุกทางไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวขนาดใหญ่หรือเล็ก ด้วยคนจำนวนมากหรือน้อย จะยืดเยื้อหรือรวดเร็ว มีแผนรับมือไว้หมดทุกทาง โดยจะจับตาเป็นพิเศษในช่วง 4 วันตั้งแต่วันที่ 25-28 ก.พ.จะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนสนใจคดีนี้มากที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆมากขึ้นในช่วงนี้ พร้อมทั้งจะเร่งชี้แจงกระบวนการขั้นตอน กลไกต่างๆในการวินิจฉัยคดีอย่างละเอียดให้ประชาชนได้รับทราบ โดยผ่านทุกช่องทางของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หรือเว็ปไซต์ ส่วนประชาชนที่มีข้อสังสัยหรือมีข่าวความเคลื่อนไหวของผู้ที่ไม่หวังดีก็สามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่เบอร์ 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง

 “รัฐบาลประเมินว่ากลุ่มผู้สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ จะอาศัยช่วง 4 วันดังกล่าวปลุกอารมณ์คนให้ออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างประเด็นสองมาตรฐาน เพราะในช่วงนั้นคนจะสนใจคดีนี้มากที่สุดเรียกว่าอยู่ในจุดพีค ดังนั้นทันทีที่การพิพากษาเสร็จสิ้นลง รัฐบาลจะใช้สื่อของรัฐทุกแขนงชี้แจงรายละเอียดคำพิพากษาโดยจะเชิญนักกฎหมาย หรือบุคคลที่เป็นกลางมาถกเถียงกันในทุกๆแง่มุม เพื่อให้คนหายสงสัย เพื่อนำไปสู่การพูดคุยประเด็นอื่นๆรวมทั้งยืนยันว่าหากจะมีการเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก่อน” โฆษกรัฐบาล กล่าว

 โฆษกรัฐบาล ระบุว่า มีนักวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเมืองต่างประเทศ โทรศัพท์มาหาตนโดยกล่าวชื่นชมรัฐบาลว่าเตรียมความพร้อมในการรับมือการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นระบบ ส่วนกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ ที่คาดว่าจะก่อความรุนแรงนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์บุคคลที่เป็นเป้าหมายเพื่อไม่ให้ก่อความวุ่นวายแล้ว