หนุ่มใหญ่ แค้นญาติแจ้งจับหาว่าลัก "กล้วยด่างแดงอินโด" บุกกราดยิงดับ 2 เจ็บ 1

4 ธ.ค. 2564 เมื่อเวลา 00.05 น. พ.ต.ท.วีรวิทย์  ลภัสจารุสกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุมีการยิงกันและมีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายราย ที่บ้านเลขที่ 59 ม.2 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภเมืองนครปฐม ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม สืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม แพทย์เวร รพ.นครปฐม เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม 

ในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้กึ่งปูนยกหลังคาสูง บริเวณประตูเข้าตัวบ้านพบศพ นายคุณากร ปัญญาเตียน อายุ 57 ปี  นอนเสียชีวิตอยู่ สภาพศพ มีบาดแผลถูกยิง เข้าที่ลำตัวหลายนัด ด้วยอาวุธปืนขนาด .38  super ใกล้กัน ประตูด้านในตัวบ้าน พบศพ น.ส.สุกัญญา ภู่แก้ว อายุ 49 ปี ภรรยานายคุณากร นอนเสียชีวิตลักษณะหงายหน้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน นอกจากนนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายฆนากร ปัญญาเตียน อายุ 23 ปี ลูกชาย ถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวา 1 นัด จึงให้การช่วยเหลือนำส่งรพ.นครปฐม  จากการตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 super จำนวน 15 ปลอก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน 

จากการสอบถาม ทราบชื่อคนก่อเหตุคือ นายสมเจตน์ ภู่แก้ว  อายุ 35 ปี  หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ในบ้านซึ่งอยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวและขอความร่วมมือกับ  นางประวีณา  ภรรยา ผู้ก่อเหตุ  ให้นำเข้าค้นบ้านพัก โดยพบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ถูกซ่อนอยู่ในช่องแช่เย็นของตู้เย็นภายในบ้านพัก

จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายสมเจตน์ ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาลักทรัพย์เป็นต้น กล้วยด่างแดงอินโด ซึ่งเป็นไม้ที่กำลังนิยมมีการเพาะเลี้ยงและมีราคาในท้องตลาดในบ้านพักที่เกิดเหตุของนายคุณากรและนางสุกัญญา ซึ่งเป็นญาติของนายสมเจตน์ และได้ถูกแจ้งความในข้อหาลักทรัพย์ ทำให้เป็นชนวนเหตุให้เกิดความโกรธแค้น กระทั่งบุกมากราดยิงคนในบ้านดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน ซึ่งจะสอบปากคำเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มต่อไป

สำหรับ กล้วยด่างแดงอินโด เป็นไม้ที่กำลังเป็นที่นิยมในท้องตลาด โดยลำต้นถึงใบจะมีลักษณะพิเศษ คือมีสีด่างแดงสลับเขียว และใบเงางดงาม ในท้องตลาดผู้นิยมเพาะเลี้ยงได้มีการซื้อขายกันเป็นที่ฮือฮาคือในราคา 5-10 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในไม้ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ โดยผู้เพาะเลี้ยงบางราย สามารถคัดสายพันธุ์ได้ดี สามารถนำกอแบ่งออกขายได้ถึงกอละ 2 ล้านบาท จึงเป็นกระแสดังในตอนนี้