ข่าว

"สกัดความลับรั่วไหล" ราชกิจจาฯ ออกประกาศสำนักนายกฯเช็คประวัติบุคคลถี่ยิบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เอาแล้วไง นายกฯ ลงนามในประกาศสำนักนายกฯ สั่งตรวจสอบพฤติการณ์บุคคลสกัดความลับทางราชการรั่วไหล จับได้ให้พ้นราชการ เผยแบบฟอร์มตรวจสอบประวัติย้อนหลัง ทั้งการเคยเป็นสื่อ นักเขียน และสนับสนุนพรรคการเมืองร่วมกิจกรรมกลุ่มการเมืองสื่อสังคมออนไลน์หรือไม่ละเอียดยิบ

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ลงนามในประกาศสำนักนายกฯเรื่อง  หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยเป็นการตรวจสอบประวัติบุคคลที่เข้ามาร่วมงานในวงราชการละเอียดยิบ ทั้งประวัติเคยเป็นสื่อสารมวลชน นักเขียน มีนามปากกาหรือไม่  รวมถึงเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ร่วมเคลื่อนไหวในกิจกรรมทางการเมืองตลอดจนเป็นสมาชิกกลุ่มทางสื่อสังคมออนไลน์หรือไม่  โดยประกาศลงราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา 

 

ประกาศสำนักนายกฯ ฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า โดยที่หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลและเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว

 

ประกอบกับได้มีการแก้ไขปรับปรุง เกี่ยวกับการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษา ความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้เหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 

สมควร ที่จะได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และเอกสารหลักฐาน ที่ใช้ประกอบการรักษาความปลอดภัยให้สอดคล้องกัน และเพื่อให้การปฏิบัติการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๒๖ วรรคสี่ ข้อ ๒๗ วรรคสอง และข้อ ๒๙ วรรคสอง แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ข้อ ๒๘ วรรคสี่ และข้อ ๓๑ วรรคสอง แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรี จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

"สกัดความลับรั่วไหล" ราชกิจจาฯ ออกประกาศสำนักนายกฯเช็คประวัติบุคคลถี่ยิบ

 

ข้อ ๑ ให้ยกเลิก (๑) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๓

 

(๒) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษา ความปลอดภัย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๓

 

ข้อ ๒ ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลสำหรับบุคคล ตามข้อ ๒๖ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐

 

ข้อ ๓ การตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามข้อ ๒ ให้บุคคลเจ้าของประวัติ กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของตนในแบบประวัติบุคคล (รปภ.๑) ตามที่กำหนดไว้ท้ายประกาศนี้ ให้ครบถ้วน โดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยควบคุมรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานของรัฐนั้น ข้อ ๔ ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องตามข้อ ๓ ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ ตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ของบุคคล เพื่อดำเนินการพิมพ์ลายนิ้วมือและตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ ของบุคคลเจ้าของประวัติตามข้อ ๓ ในกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือได้ให้ดำเนินการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลด้วยวิธีการอื่นได้

 

ในการนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องจัดให้มีการตรวจสอบประวัติ การต้องหาคดีอาญา และตรวจสอบพฤติการณ์ของบุคคลเจ้าของประวัติโดยอาจตรวจสอบจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยได้ แล้วให้หน่วยงานที่ดำเนินการตรวจสอบแจ้งผลการตรวจสอบ ถึงหน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องโดยตรง ให้องค์การรักษาความปลอดภัยร่วมกันพิจารณาวางแนวทางการตรวจสอบพฤติการณ์ ของบุคคลเจ้าของประวัติ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับไปดำเนินการเป็นการทั่วไปได้ ในการนี้อาจเชิญ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมพิจารณาได้

 

ข้อ ๕ เมื่อผลการตรวจสอบตามข้อ ๔ ปรากฏว่าบุคคลเจ้าของประวัติมีความผิด หรือมีผลของคดี หรือมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมหรือมีผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาผลการตรวจสอบว่าจะสั่งบรรจุ แต่งตั้ง หรือว่าจ้าง หรือให้บุคคลนั้น พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ และให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

ข้อ ๖ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐสั่งบรรจุ แต่งตั้ง หรือว่าจ้างบุคคลเจ้าของประวัติตามข้อ ๕ ให้หน่วยงานของรัฐส่งแบบประวัติบุคคล (รปภ.๑) และผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติ การต้องหาคดีอาญาหรือผลการตรวจสอบพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลโดยวิธีอื่นรวมทั้งพฤติการณ์ของบุคคล ดังกล่าวให้องค์การรักษาความปลอดภัยแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

 

ข้อ ๗ ในกรณีที่บุคคลเจ้าของประวัติตามข้อ ๓ ประสงค์จะขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของตน ให้ดำเนินการตามแบบบันทึกเปลี่ยนแปลงประวัติบุคคล (รปภ.๒) ตามที่กำหนดไว้ท้ายประกาศนี้

 

ข้อ ๘ ในกรณีที่ต้องตรวจสอบบุคคลตามข้อ ๒๗ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐

 

นอกจากตรวจสอบตามข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ และข้อ ๖ แล้วให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามแนวทางที่องค์การรักษาความปลอดภัยร่วมกันกำหนดด้วย หน่วยงานของรัฐอาจขอให้องค์การรักษาความปลอดภัยตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามวรรคหนึ่งได้

 

ทั้งนี้ การขอและการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล รวมทั้งการแจ้งผล ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่องค์การรักษาความปลอดภัยแต่ละฝ่ายเป็นผู้กำหนด

 

ข้อ ๙ ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ องค์การรักษาความปลอดภัยอาจประสานกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล โดยละเอียดสำหรับบุคคลซึ่งหน่วยงานของรัฐนั้นจะบรรจุเข้ารับราชการหรือว่าจ้าง หรือมอบหมาย ให้ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งที่สำคัญ หรือเข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ และทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน หรือบุคคลที่มีพฤติการณ์ที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งรัฐได้ตามความเหมาะสม และตามสมควรแก่กรณี หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลโดยละเอียดตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่องค์การรักษาความปลอดภัยแต่ละฝ่ายเป็นผู้กำหนด

 

ข้อ ๑๐ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้บุคคลซึ่งเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจ หรือตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้เข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการตามชั้นความลับ ลงนามในบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ตามแบบ รปภ. ๓ ตามที่ กำหนดไว้ท้ายประกาศนี้

 

ตัวอย่างแบบฟอร์มการบันทึกประวัติ ตามประกาศสำนักนายกฯ สกัดความลับราชการรั่วไหล

 

ทั้งนี้ ตามข้อ ๒๘ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐

 

ข้อ ๑๑ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้มีการรับรองความไว้วางใจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ในสังกัดในใบรับรองความไว้วางใจตามแบบ รปภ. ๔ ตามที่กำหนดไว้ท้ายประกาศนี้ ตามระดับความไว้วางใจ ที่แต่ละคนได้รับอนุมัติ รวมทั้งจัดให้มีทะเบียนความไว้วางใจตามแบบ รปภ. ๕ ตามที่กำหนดไว้ ท้ายประกาศนี้ เพื่อบันทึกให้ตรงตามใบรับรองความไว้วางใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนดังกล่าวไว้ ณ หน่วยงานของรัฐด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อ ๒๙ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒

 

ข้อ ๑๒ บุคคลใดพ้นจากภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามข้อ ๓๑ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษา ความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ และดำเนินการให้บุคคลนั้นลงชื่อในบันทึก รับรองการรักษาความลับเมื่อพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ตามแบบ รปภ. ๖ ตามที่กำหนดไว้ท้ายประกาศนี้

 

 

แบบฟอร์ม การตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามระเบียบสำนักนายกฯฉบับใหม่

 

ข้อ ๑๓ เอกสารหลักฐานที่จัดทำขึ้นตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษา ความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๓ และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๓ ให้ใช้บังคับต่อไปได้  และให้ถือว่าเป็นเอกสารหลักฐานตามประกาศนี้ และให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงแก้ไขเอกสารหลักฐาน ดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เป็นไปตามประกาศนี้ในโอกาสแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงนับแต่ประกาศนี้ มีผลใช้บังคับ

 

ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 256 4

 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

คลิกอ่านฉบับเต็ม >>>

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลและการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒

logoline