ที่แท้ "นร.นายสิบ" หัวร้อน "ไล่ยิงรถเมล์" อ้างฉุนเตือนควันดำแต่โดนด่ากลับ

2 ธ.ค.2564  กรณีเพจดัง "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part2" เผยคลิปเหตุการณ์ระทึก ขณะที่รถเมล์สาย 71 ถูกชายสวมเสื้อแจ็คเก็ต สีส้ม กางเกงยีนส์ ขี่รถจักรยานยนต์ ไล่ยิงใส่รถเมล์ ขณะวิ่งอยู่บนถนน  โดยในคลิป เผยให้เห็นภาพคนขับรถเมล์ และกระเป๋ารถเมล์อยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกกายน บริเวณป้ายรถเมล์ตรงข้ามห้างย่านรามอินทรา 

โดยหลังเกิดเหตุ คนขับรถเมล์ พร้อมด้วยพนักงานเก็บเงิน  ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บางชัน เพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้น คนขับรถเมล์คันดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ขณะที่กำลังจอดรถรับผู้โดยสาร อยู่ย่านมีนบุรี ปรากฎว่าผู้ชายสวมเสื้อสีส้ม ขี่รถจักรยานยนต์มาขวางหน้ารถ และถามว่า "ขับรถควันดำผิดกฎหมายหรือไม่" ตนจึงตอบกลับไปว่า "ไม่ทราบครับ" ชายคนดังกล่าว ก็ยิ้มให้ แล้วเดินไปที่รถจักรยานยนต์
 

จากนั้นได้หยิบอาวุธปืนที่อยู่ใต้เบาะแล้วเดินมาที่รถเมล์ เมื่อเห็นท่าไม่ดี ตนจึงรีบปิดประตูและขับรถหนีออกมาทันที แต่ชายคนดังกล่าวยังขี่รถจักรยานยนต์ ตามมาและยิงปืนเข้าใส่รถเมล์ ที่กระจกข้าง และที่ล้อหลัง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระเป๋ารถเมล์  ได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด ก่อนที่ชายที่ก่อเหตุจะตามถึงแยกซอยคู้บอนและหลบหนีไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุตำรวจ สน.บางชัน ได้ลงพื้นที่จนทราบผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ยศสิบตำรวจ จึงทำการเชิญตัวมาที่ สน.บางชัน โดยเจ้าตัวให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุพบเห็นว่ารถเมล์คันนี้มีควันดำออกจากท่อ จึงทำการตักเตือน แต่กลับถูกคนขับรถเมล์ด่าทอกลับมา ทำให้เกิดความโมโห และมีการโต้เถียง จนมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเมล์

ด้าน พ.ต.อ.วสุ เชื่อพุทธ ผกก. สน.บางชัน เปิดเผยว่า ชายผู้ก่อเหตุเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุ พร้อมยอมรับว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเมล์จริง เนื่องจากโมโหที่ถูกควันดำของรถเมล์คันดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหา พยายามฆ่า และข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน ก่อนทำการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีการเสนอเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อจบคดีนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลดังกล่าว และยังต้องรอการสอบปากคำฝ่ายทางคนขับรถเมล์ และกระเป๋ารถเมล์ที่ยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนต่อไป