ข่าว

บทวิเคราะห์ : "ปราสาทสายฟ้า" จากสไตล์บราซิลสู่วิถีซามูไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สิ้นสุดการรอคอยเป็นที่แน่นอนแล้ว สำหรับ "ปราสาทสายฟ้า" ที่เข้าสู่โหมดนับถอยหลัง เพื่อเตรียมเปิดตัวกุนซือสัญชาติญี่ปุ่น " มาซาทาดะ อิชิอิ" จาก สมุทรปราการซิตี้ ที่ตัดสินใจไม่ไปต่อกับต้นสังกัดเดิม และเตรียมที่จะเข้ามารับงานในถิ่น"เซราะกราว" คมชัดลึก มีบทวิเคราะห์

กลายเป็นเรื่องที่ช็อก สำหรับคอบอลไทยไปตามๆกัน หลัง   มาซาทาดะ อิชิอิ  เฮดโค้ช สมุทรปราการ ซิตี้ ประกาศอำลาทีมหลังจบครึ่งซีซั่นแรก   ของฤดูกาล  2021/2022   ฟุตบอลไทยลีก 1 "รีโว่ ไทยลีก"  และตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ  " ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์  ยูไนเต็ด    ในช่วงแรกหลายคนยังคงตั้งคำถามว่าทำไมโค้ชเลือดซามูไร ต้องอำลาทีม ทั้งที่สัญญายังเหลือไปจนจบซีซั่น และทางบอร์ดบริหารของ "เขี้ยวสมุทร" เอง ยังคงหนุนหลังการทำงาน อิชิอิ เต็มที่ แม้ว่าผลงานในช่วงหลังจะไม่ค่อยดีนัก จนทีมลงไปนอนกองอยู่โซนท้ายตาราง  ( อันดับ 13 จาก 16 ทีม ) 

 

โดยเกมสุดท้ายของโค้ชญี่ปุ่นกับสมุทรปราการ ซิตี้  คือการออกไปแพ้  ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมร่วมโซนท้ายตาราง ก่อนจะแยกย้ายอำลากันด้วยดี    และภาพเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อสื่อกีฬาและเพจฟุตบอลไทย เริ่มรายงานข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า "ปราสาทสายฟ้า"   บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ตกลงสัญญาส่วนตัวกับโค้ชอิชิอิได้แล้ว พร้อมกับเตรียมจะแยกทาง  อเล็กซานเดร กามา กุนซือชาวบราซิล ที่กำลังพาทีมคั่วแชมป์อยู่ในขณะนี้ จนสุดท้ายทุกอย่างลงล็อกมากขึ้น

 


 เมื่อจบเกมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ไปเยือนลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด  ซึ่ง  "ปราสาทสายฟ้า"  ได้ประกาศอำลา อเล็กซานเดร กามา  อย่างเป็นทางการ เท่ากับว่าต่อจากนี้ทุกอย่างคงไม่มีผิดเพี้ยน ที่"โค้ชอิชิอิ" จะเข้ามารับไม้ต่อจาก กามา ในการพาทัพ "เซาะกราว"  ทะยานสู่ความสำเร็จ 

 

ทำไม  "ลุงเน"  เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ถึงตัดสินใจเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึกแบบนี้ หลายคนคงสงสัยไม่ต่างจากผม ว่ากันว่า การที่"ลุงเนวิน"ตัดสินใจเปลี่ยนกุนซือกลางทาง เนื่องจากว่าเริ่มมองการวางรากฐานทีมในระยะยาวมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ทีมชุดใหญ่แต่หมายถึงทั้งระบบของสโมสรโดยรวม  หมายความว่าต่อจากนี้ "ปราสาทสายฟ้า" จะพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโครงสร้างทีมในทางฟุตบอล ตั้งแต่เยาวชนถึงทีมชุดใหญ่

ในช่วงหลายปีหลังที่ผ่านมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่เปลี่ยนโค้ชได้ตลอด หากท่านประธานมองว่าทีมยังไม่ลงตัวหรือไม่ถูกใจ สำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ แหล่งข่าวบอกว่านอกจากจะดึง "โค้ชอิชิอิ" มาทำทีมชุดใหญ่แล้ว ยังมีการดึงตัว  "มาซายูกิ มิอุระ"  โค้ชญี่ปุ่นของขอนแก่น เอฟซี ทีมในไทยลีก 2 มาเป็นผู้ช่วย พร้อมกับวางแผนงานระยาวให้กุนซือจากลีกรองรายนี้ มาดูแลทีมเยาวชนของทีม แทนที่แอนดรูว์ ออร์ด เฮดโค้ชสัญชาติอังกฤษ ของทีมอคาเดมีที่เพิ่งแยกทางกัน โดยโครงสร้างเชื่อมโยงกับแนวทางการทำงานของ "โค้ชอิชิอิ" 

 

 


เท่ากับว่าทีมอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมาตลอดสิบปีในวงการฟุตบอลไทย พร้อมจะปรับเปลี่ยนตัวเองอีกครั้ง และถือเป็นครั้งที่ต้องจับตามอง เพราะต่อจากนี้บุรีรัมย์เลือกเดินทางตามแนวทางวิถีซามูไร เลือกจะเดินหน้าสร้างทีมอย่างเป็นระบบ ที่ชุดใหญ่และทีมอคาเดมี ทำงานสอดคล้องกันและไปด้วยกันเป็นองคาพยพ ที่ผ่านมาบุรีรัมย์มักจะมีปัญหาเรื่องของผลผลิตจากอคาเดมีขึ้นมาสู่ชุดใหญ่น้อยเกินไป หลังจากที่ชุดของ ศุภชัย ใจเด็ด , สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก้าวขึ้นมาตั้งแต่ปี 2019 ที่พอจะเห็นเป็นรูปธรรมคือ อิรฟาน ดอเลาะ เพียงคนเดียว
 


ถ้ามองปัญหาในตรงนี้อาจเป็นเพราะ การทำงานของทีมอคาเดมี และโค้ชทีมชุดใหญ่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้นักเตะเยาวชนฝีเท้าดีหลายคนไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเฮดโค้ชชุดใหญ่ ถึงแม้ว่าเฮดของเฮดโค้ชจะช่วยดัน แต่ก็เข็นไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะฉะนั้นการเลือกโค้ชญี่ปุ่นเข้ามาทำทีมโดยวางระบบตั้งแต่ฐานถึงยอด เป็นสิ่งที่ทางบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เลือกที่จะเชื่อ แนวทางฟุตบอลญี่ปุ่นเป็นที่ยอมรับในเอเชียอยู่แล้วว่า เป็นฟุตบอลที่สร้างกันด้วยระบบและมีแบบแผนไม่ใช่ 1-2 ปี แต่วางแผนกันระดับ 10 - 20 ปี  

โดยเฉพาะ"โค้ชอิชิอิ" ที่ถนัดในเรื่องการสร้างทีมจากทรัพยากรในทีมที่มีอยู่เป็นหลัก ปลุกปั้นนักเตะโนเนมให้พัฒนามาเป็นบิ๊กเนม รวมถึงการให้โอกาสนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีให้มีโอกาส ขึ้นมาวัดฝีมือกับรุ่นพี่ในทีมชุดใหญ่ เพื่อให้เกิดการแข่งขันภายในทีม ในการเบียดกันลงเป็น 11 ตัวจริง นั่นหมายถึงนักเตะทุกคนพร้อมจะลงสนาม ซึ่งส่งผลดีต่อขนาดทีม ที่นักเตะทุกคนพร้อมจะทดแทนกันได้

 

ต่อจากนี้เป็นโจทย์ใหญ่ของ"โค้ชอิชิอิ " ว่าจะพา บุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ไทยลีก 2021/22 ได้อย่างไร เพราะขณะนี้  กามา พาทีมขึ้นจ่าฝูงเมื่อจบครึ่งซีซั่นแรก นั่นหมายถึงเป้าหมายจบซีซั่นต้องเป็นแชมป์สถานเดียว และการทำงานต้องควบคู่กับการสร้างทีมระยะยาว

 

แต่ที่สุดแล้วสิ่งที่อิชิอิ ควรจะกังวลในการทำงานกับ "บุรีรัมย์ยูไนเต็ด"  คือการพูดคุยกับ เฮดของเฮดโค้ช ว่าการทำงานจะหาจุดกึ่งกลางมาเจอกันครึ่งทางได้ที่ตรงไหน เพื่อบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น รวมถึงอำนาจในห้องแต่งตัวของทีม ที่เฉพาะโค้ชญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่ามีอีโก้สูงลิบ มีแนวทางการทำงานของตัวเองชัดเจน ไม่ชอบให้มาล้วงลูก เมื่อมาเจอกับเฮดของเฮดโค้ชแบบนี้ จะทำงานกันได้ยาวแค่ไหน หรือใครจะหมดความอดทนก่อนกัน 

 

บทวิเคราะห์ : "ปราสาทสายฟ้า" จากสไตล์บราซิลสู่วิถีซามูไร บทวิเคราะห์ : "ปราสาทสายฟ้า" จากสไตล์บราซิลสู่วิถีซามูไร บทวิเคราะห์ : "ปราสาทสายฟ้า" จากสไตล์บราซิลสู่วิถีซามูไร

มาซาทาดะ อิชิอิ  เฮดโค้ช สมุทรปราการ ซิตี้  แยกทางกับต้นสังกัดเดิมและรอเปิดตัวกับสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด 

ภาพประกอบโดย สมพงษ์ พรมรักษ์ 

BALL BOY PAGE

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ