เกาหลีใต้พบผู้ต้องสงสัยติดโควิดกลายพันธุ์ "โอไมครอน" ครั้งแรก 2 ราย ซ้ำเติมสถานการณ์หนักขึ้นอีก ยอดติดโควิดวันเดียวกันทะลุครึ่งหมื่นครั้งแรก ป่วยหนักทุบสถิติ คาดเห็นยอดติดเชื้อใหม่หลักหมื่นต้นปีหน้า
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (เคซีดีซี) แถลงยืนยันค่ำวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ โอไมครอน ครั้งแรกในประเทศ เป็นสามีภรรยาวัย 40 ปีเศษ ชาวเมืองอินชอนที่เดินทางเยือนไนจีเรีย ช่วง 14-23 พ.ย. กลับถึงเกาหลีใต้ 24 พ.ย. เข้ารับการตรวจเชื้อแบบ PCR ในวันเดียวกัน พบผลบวกในวันถัดมา (25 พ.ย.) แต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดลตา จึงส่งตรวจลำดับพันธุกรรม และผลยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ในวันนี้
ทั้งสองฉีดวัคซีนโมเดอร์นาครบโดสแล้วเมื่อ 28 ต.ค. ได้รับการละเว้นกักตัวหลังเดินทาง จึงเดินทางไปไหนมาไหนอย่างน้อย 1 วัน อีกสองรายอยู่ในข่ายต้องสงสัย เป็นเพื่อนกับลูกชายวัยรุ่นของสามีภรรยา ผลตรวจเชื้อเป็นบวกทั้งคู่ แต่รอผลตรวจยืนยันคาดว่าจะแถลงในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) ทั้ง 4 คน อาการไม่รุนแรง
เที่ยวบินที่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ ต้นทางไนจีเรีย แวะเอธิโอเปีย ก่อนมาโซล มีผู้โดยสาร 81 คน จำนวนนี้ 45 คนมาถึงเกาหลีใต้ ทางการเกาหลีใต้กำลังติดตามตัวและสอบสวนโรค
วันเดียวกัน เคซีดีซี รายงานยอดผู้ติดโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 5,123 ราย นับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันเดียวตั้งแต่มีโรคระบาด จำนวนนี้ 5,075 เป็นติดเชื้อในประเทศ และอยู่ในกรุงโซลถึง 4,110 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 34 ราย อีกตัวเลขที่น่าวิตกก็คือ ผู้ป่วยอาการหนัก 723 ราย ถือเป็นสถิติใหม่อีกเช่นกัน เวลานี้ ในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ อัตราครองเตียงผู้ป่วยหนักอยู่ที่เกือบ 90% แล้ว
ยอดติดเชื้อใหม่พุ่งกระฉูด เกิดขึ้นหลังจากเกาหลีใต้เริ่มผ่อนมาตรการคุมโรคในขั้นแรกจากทั้งหมด 3 ขั้น เพื่อเข้าสู่ภาวะปกติ เริ่มเมื่อ 1 พ.ย. ขณะนายแพทย์ ชอง แจ ฮุน ที่ปรึกษาด้านนโยบายโควิด-19 สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับจากพบสายพันธุ์เดลตา การคุมระบาดผ่านวัคซีนอย่างเดียวเป็นเรื่องยาก หากเกาหลีใต้ยังยึดตามนโยบายมุ่งผ่อนคลายสู่ภาวะปกติ อาจได้เห็นยอดติดเชื้อใหม่ พุ่งแตะหลักหมื่นภายในสิ้นเดือนมกราคม จำเป็นต้องมีมาตรการลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด
ประชากรในเกาหลีใต้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม 82.9% ยอดฉีควัคซีนครบโดสอยู่ที่ 79.9%
เกาหลีใต้มียอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 452,350 ราย เสียชีวิต 3,658 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง